คณะกรรมการด้านการต่างประเทศของสมาชิกวุฒิสภา ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปกป้องและยึดหลักประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม สิทธิในการชุมนุมโดยสันติ และเสรีภาพในการแสดงออก
ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ยาวนานมากว่า 202 ปี โดยประเทศไทยเป็นประเทศพันธมิตรทางสนธิสัญญาประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ที่ร่วมอุดมการณ์ประชาธิปไตย หลักนิติธรรม สิทธิมนุษยชนสากล และตลาดเสรี ผ่านทางสนธิสัญญา Treaty of Amity and Commerce ในปี พ.ศ. 2376 นอกจากนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญ เป็นพันธมิตรนอก NATO ที่สำคัญในปี พ.ศ. 2546 และออกประกาศ United States-Thailand Joint Vision Statement for the Thai-United States Defense Alliance ร่วมกันเพื่อเสริมสร้างการเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงในปี พ.ศ.2555
ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวถึงการได้ร่วมลงนามสนธิสัญญา Southeast Asia Collective Defense Treaty หรือ Manila Pact ในปี พ.ศ.2497 โดยที่ทั้งสองประเทศต่างให้คำมั่นสัญญาในการสร้างความสงบสุขและเสรีภาพ และยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคล และหลักนิติธรรม
สมาชิกวุฒิสภา Menedez กล่าวว่า “ในขณะที่ประชาธิปไตยถูกโจมตีจากหลายฝ่าย คณะวุฒิสภาของประเทศสหรัฐอเมริกาต้องยืนเคียงข้างการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของประเทศไทย”
และสมาชิกวุฒิสภา Duckworth ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันกล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิการชุมนุมโดยสันติในประเทศสหรัฐอเมริกา ดิฉันรู้ดีว่าต้องยึดมั่นและปกป้องทั้งความสัมพันธ์อันยาวนานและแน่นแฟ้น ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยและสิทธิตามหลักประชาธิปไตยสากลของทุกคน”
กองโฆษกต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์วุฒิสภา ประเทศสหรัฐอเมริกา