“ชนินทร์” จี้ ปชป.อย่าปล่อยผีสัญญารถไฟฟ้า บีทีเอส เอื้อกลุ่มทุนผูกขาด ซ้ำเติมคนกรุงปล่อยภาคเอกชนขูดค่าโดยสาร ย้ำจับตาสัญญารถไฟสายสีส้ม เริ่มประวิงเวลา ส่อแววหมกเม็ดหาประโยชน์
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีความพยายามขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้บีทีเอส โดยหลบหลีกการประมูลภายใต้ พ.ร.บ.ร่วมทุนว่า การลุแก่อำนาจ เอื้อประโยชน์ให้นายทุนของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้จะทำให้กลุ่มทุนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เอาจากประชาชน ด้วยการขึ้นค่าโดยสารซึ่งรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในอนาคตจนกว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในอีก 37 ปี จะเป็นการผูกขาดการบริหารระบบขนส่งมวลชนโดยภาคเอกชนไปจนถึงปี 2602 ซึ่งรวมถึงอาจปิดประตูระบบตั๋วร่วม และการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้อย่างแท้จริง จึงอยากวอนขอให้คณะรัฐมนตรีทุกพรรคฟังเสียงประชาชนบ้าง อย่าปล่อยผ่านและซ้ำเติมปัญหาค่าครองชีพของประชาชนเช่นนี้ และอยากตั้งคำถามไปถึงคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเหตุใดจึงไม่เคยมีท่าทีคัดค้านที่หนักแน่นในการต่อสัญญาที่ทำร้ายคนกรุงเทพฯ ในวงกว้างครั้งนี้ หรือว่าพรรคประชาธิปัตย์ทิ้งคนกรุงเทพฯ แล้ว จึงยอมปล่อยให้รัฐบาลที่มีเสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ ทำอะไรได้ตามอำเภอใจ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนกรุงเทพฯ คงต้องจนใจ
นอกจากนี้ ภายหลังจากที่ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยชี้แล้วว่าการแก้หลักเกณฑ์การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รัฐบาลก็ควรรีบคลี่คลายปัญหาที่ค้างคาอยู่ แล้วเร่งเปิดประมูลใหม่ให้ถูกต้อง อย่าลากเรื่องค้างคาให้เป็นปัญหาระยะยาวต่อประชาชน จึงอยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาใหม่ดังนี้
- แยกประมูลบริหารการเดินรถช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (ตะวันออก) ที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จแล้วออกจากช่วง บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม (ตะวันตก) ที่ยังไม่เริ่มสร้าง เพื่อให้สามารถให้บริการได้ก่อน ไม่ต้องรอประมูลเบ็ดเสร็จทั้งเส้น
- พิจารณาเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตกจากเดิมที่ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน มาเป็นให้รัฐเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างเอง เพื่อที่จะสามารถเชื่อมต่อระบบในอนาคตได้สะดวก และควบคุมราคาและระบบตั๋วได้ทันที
- ออกแบบสัญญาประมูลบริหารการเดินรถที่คำนึงถึงประชาชนผู้ใช้บริการเป็นที่ตั้ง คิดค่าบริการเป็นระบบเดียวกันทั้งโครงข่าย คิดค่าแรกเข้าทีเดียว และบังคับให้รองรับระบบตั๋วร่วมทันที เพื่อทำให้การบริการรถไฟฟ้าเป็นขนส่งเพื่อมวลชนและเพื่อสาธารณะที่แท้จริง
นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เห็นปัญหาในอดีตมาโดยตลอดว่าการอนุมัติให้เอกชนก่อสร้างทางและรางเป็นเหตุให้ค่าโดยสารมีราคาสูง หากเห็นแก่ประชาชนจริง ควรพิจารณาให้ภาครัฐเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานเอง แล้วว่าจ้างเอกชนในการเดินรถและซ่อมบำรุงรถแทน จะช่วยป้องกันการผูกขาดการให้บริการและปรับราคาค่าโดยสารลงมาได้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้รถไฟฟ้าได้อย่างเท่าเทียมกัน