“พิเชษฐ์”ชี้ทุจริตพุ่งเหตุ“บิ๊กตู่”ไม่กล้าสอบกลัวพรรคร่วม เผยห้างดังย่านประตูน้ำซบเซาหนักร้านทยอยปิดเหตุไร้คนเดิน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี น่าเป็นห่วงมาก ปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการรายย่อยตามห้างสรรพสินค้า ร้านตามถนน ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายอาหาร ที่ตั้งในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว ปิดตัวเป็นจำนวนมากเพราะไม่มีลูกค้า ไร้นักท่องเที่ยว หากเปิดต่อก็ไม่รู้ว่าจะนำเงินทุนมาจากไหน เพราะเข้าไม่ถึงเงินกู้ของรัฐ

อยากให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เดินดูที่ร้านค้าส่งย่านประตูน้ำ โดยเฉพาะที่ห้างแพลตตินั่ม หรือ พันธ์ทิพย์ประตูน้ำ เดิมเป็นทำเลทองมีผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ประกอบการปิดกิจการไม่ต่างจากห้างร้าง เพราะลูกค้าหดหาย ผู้ประกอบการสู้ค่าเช่าไม่ไหวปิดตัว ส่งผลให้ย่านการค้าประตูน้ำซบเซา

นายพิเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า อยากถามว่าเงินกู้ 1.5 ล้านล้าน หายไปไหนใช้ไปกับโครงการอะไร เกิดมูลค่าเพิ่มหรือไม่ กลายเป็นว่ารัฐบาลใช้เงินกู้เพื่อ ประคองเศรษฐกิจและประคองสถานะรัฐบาล สร้างภาพลวงตา ใช้โครงการแจกเงินให้ ประชาชนเพื่อสร้างภาพและหาเสียง ทางการเมืองมากกว่าจริงใจช่วยประชาชน ดังนั้นเงินกู้ 1.5 ล้านล้านหมดไปโดยไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน

“พลเอกประยุทธ์ย้ำว่าตัวเองไม่ทุจริตแต่การเพิกเฉยต่อตรวจสอบทุจริตที่ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการจัดซื้ออาวุธให้เหล่าทัพ ทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง มูลค่า 2,000 ล้าน และการจัดซื้อวัคซีนโควิด ที่สำคัญคือการนำเงินกู้ไปจัดซื้อเครื่องตรวจหาเชื้อโควิดมาให้ประชาชน แต่พรรคการเมืองบางพรรคนำไปแจกชาวบ้านเพื่อหาเสียงแทน ปัญหาเหล่านี้คือการทุจริต แต่พลเอกประยุทธ์ไม่ตรวจสอบทุจริต ก็ไม่ต่างจากการทุจริตเสียงเอง เพราะปล่อยให้พรรคร่วมทุจริตโดยตัวเองไม่กล้าสอบกลัวเสียอำนาจ พลเอกประยุทธ์ กลัวพรรคร่วมถอน ตัวทำให้ตกจากอำนาจหรืออย่างไรจึงปล่อยให้ทุจริตมหาศาลในรัฐบาลนี้”นายพิเชษฐ์ กล่าว