เพื่อไทยประกาศทวงคืนอันดับโลกประมงไทย พร้อมรื้อกฎหมายไอยูยู หวังฟื้นอาชีพ ฟื้นอุตสาหกรรมประมง เหตุรัฐบาลทำสูญปีละ 2 แสนล้านมากเกินพอ
นายไตรฤกษ์ มือสันทัด คณะทำงานด้านนโยบายประมงพรรคเพื่อไทย รองประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวในงานเสวนา ‘แนวทางแก้ปัญหาอาชีพประมงและนโยบาย’ ในงานวันประมงแห่งชาติ ว่า ปัญหาประมงไทยกำลังจะล่มสลาย เพราะรัฐบาลไม่เข้าใจประมงทะเลไทย จากกรณีที่ในปี 2558 รัฐบาลไม่เจรจาต่อรองการปรับการใช้กฎหมาย IUU (Illegal Unreported and Unregulated fishing) ของอียู ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับ ความเป็นจริงของประเทศไทยเหมือนต่างประเทศ โดยพบว่า 200 ประเทศทั่วโลก รับกฎหมาย IUU เพียง 10 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศนั้น รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายเต็มฉบับทันที บทลงโทษที่รุนแรง ไม่ประเมินผลได้เสียของประเทศ ส่งผลกระทบมหาศาลกับการประมงทั้ง 22 จังหวัดของประเทศไทย เรือประมงพาณิชย์จากเกือบ 20,000 ลำ ลดลงเหลือ 9,606 ลำ และปัจจุบันทำประมงได้จริง ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน มีเรือประมงพาณิชย์รวมกันไม่ถึง 5,000 ลำเท่านั้น ธุรกิจประมง ห้องเย็น ห้องแช่ ภาคแรงงาน ได้รับกระทบเป็นลูกโซ่ ตกอยู่ในสภาวะวิกฤต ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยสง่าผ่าเผย เป็นประเทศส่งออกอาหารทะเลอันดับต้นๆ โลก แต่รัฐบาลไม่มีความรู้ความเข้าใจการประมงทะเลไทยมากพอ เพราะส่วนใหญ่เป็นการทำประมงแบบอนุรักษ์ เพราะท้องทะเลคือแหล่งทำกิน คือหม้อข้าว เราจึงต้องหวงแหนดูแลอย่างดี โดยในรอบ 12 เดือน เรือต้องหยุดออกทะเลเพราะมีมรสุม 3 เดือน ปิดอ่าวเพื่ออนุรักษ์ 4 เดือน หยุดจับปลาในคืนพระจันทร์เต็มดวง หรือคืนเดือนหงาย 4-5 วัน/เดือน รวมถึงมรสุมที่ไม่มาตามฤดูกาล ดังนั้นชาวประมงจะออกทำกินได้จริงเพียงปีละประมาณ 4 เดือน ซึ่งไม่ได้เบียดเบียนและใช้ทรัพยากรเกินเหมาะสม หรือการจับ ยึดและปรับเรือประมงไทยหลัก 40 ล้านบาทต่อลำต่อการกระทำผิด 1 ครั้ง ไม่มีชาติไหนปรับแพงเท่านี้ แต่กรณีเรือต่างชาติข้ามน่านน้ำเข้ามาในไทยกลับจับแล้วปล่อย ด้วยข้ออ้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จนทำให้ประมงไทยอยู่ยาก จึงมีความกังวลว่า ประเทศไทยจากที่เคยเป็นประเทศ ‘ส่งออก’ อาหารทะเลอันดับโลก กำลังจะกลายเป็นประเทศ ‘นำเข้า’ อาหารทะเลแทน
ดังนั้น หากเพื่อไทยมีโอกาสบริหารประเทศ จะมีการพลิกฟื้นอาชีพประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ด้วยการรื้อกฎหมายประมงที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ ปรับหลักเกณฑ์และการบังคับใช้อย่างยุติธรรมเหมาะสม จะเป็นภาระกิจสำคัญ พร้อมๆ กับการสร้างนโยบายและมาตรการต่างๆ ที่นำไปสู่การจัดการทรัพยากรประมงให้ยั่งยืน กฎหมายจะต้องไม่เป็นอุปสรรคทำลายอาชีพ
“ผมที่อยู่ในวงการประมงทะเล ขออาสาในการติดตามด้านนี้เพื่อรักษาอาชีพประมงไทย ส่วนตัวเห็นว่า ประเทศไทยมีความพร้อมทั้งความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรทางทะเล เชื่อว่าหากอุปสรรคถูกทำลาย และมีการส่งเสริมอย่างถูกต้องเหมาะสม ประเทศไทยจะกลับมาทวงคืนตำแหน่งอันดับต้นๆ ด้านการประมงของโลก ให้ประมงไทยกลับมาทำกินยืนหยัดอย่างสง่างามได้อีกครั้ง” นายไตรฤกษ์ กล่าว
สำหรับงานเสวนา ‘แนวทางแก้ปัญหาอาชีพประมงและนโยบาย’ จัดขึ้นเนื่องในงานวันประมงไทยกลางแปลง เนื่องในงานวันประมงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 จัดโดยประมงไทยรายวัน ร่วมกับตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรคประชาชาติ ณ ลานริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร