นพดล เสียดายเหตุการณ์ “สภาล่ม ” ทำให้การพิจารณาการแก้ไข มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว. โหวตนายกฯชะงักไป แต่ถ้าแก้ไม่สำเร็จในอายุสภาสมัยนี้ ก็จะเดินหน้ารณรงค์ช่วงเลือกตั้งต่อไป

นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศกล่าวว่ารู้สึกเสียดายที่เกิดเหตุการณ์สภาล่มเมื่อวานนี้ ทำให้การพิจารณาญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยที่ยื่นแก้ไขมาตรา 272 และ 159 ต้องล่าช้าออกไป และโอกาสที่จะผ่านในสมัยประชุมนี้ก็น้อยลง แต่สาเหตุที่พรรคเพื่อไทยยื่นขอแก้ไขเพื่อยืนยันเจตจำนงทางการเมืองของพรรคว่าการเดินหน้าทำให้กติกาสูงสุดเป็นประชาธิปไตย และเป็นธรรมยังเป็นภารกิจของพรรค ควบคู่ไปกับการขอโอกาสพี่น้องประชาชนไปเป็นรัฐบาลเพื่อแก้วิกฤติเศรษฐกิจที่รุมเร้าประเทศ และทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น

นายนพดล กล่าวต่อว่าถ้าแก้ไม่สำเร็จ พรรคเพื่อไทยก็จะเดินหน้ารณรงค์ต่อไปในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แม้อยากจะให้สำเร็จก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ตาม เพราะเราเชื่อว่าการโหวตตัวนายกรัฐมนตรีควรเป็นอำนาจของ ส.ส. ซึ่งประชาชนเลือกตั้งเข้ามา และตัดอำนาจ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่ให้มีอำนาจโหวต ตามมาตรา 272 ซึ่งถ้าแก้สำเร็จจะมีผลดีมากมายตามมาเช่น 1)กติกาการเข้าสู่อำนาจของนายกฯเป็นประชาธิปไตย เป็นธรรมกับทุกแคนดิเดทนายกฯ 2)ฟื้นฟูศักดิ์ศรีให้ประเทศว่าคนไทยมีกติกาที่เป็นประชาธิปไตย 3)นายกฯจะสง่างาม มีศักดิ์ศรี และ4) ตัวนายกฯจะสะท้อนเจตจำนงและความต้องการของคนไทยมากขึ้น

“หลักการข้างต้นเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ต้องยอมรับว่าประโยชน์ทางการเมืองกับจิตสำนึกทางการเมืองบ่อยครั้งเดินสวนทางกัน ถามว่าถ้าแก้มาตรา 272 ไม่สำเร็จประชาชนยังมีทางสนับสนุนพรรคการเมืองที่ตนชอบให้ไปเป็นรัฐบาลไหม ตนว่ามีเพราะถ้าประชาชนสนับสนุนพรรคที่คิดว่ามีศักยภาพที่จะเป็นรัฐบาลเพื่อพาประเทศออกจากวิกฤติทุกด้านได้ ก็เลือกพรรคนั้นให้ชนะขาดไปเลย เพื่อให้การโหวตตัวนายกฯในรัฐสภา เสียง ส.ส.มากพอที่จะโหวตเอาชนะเสียง ส.ว. (บางคน)ให้ได้ และนี่คือเหตุผลหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยขอโอกาสจากประชาชนเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งให้แลนด์สไลด์”