บุญทรง แถลงปิดคดียันรัฐวิสาหกิจจีนจริง ชี้พฤติกรรม ป.ป.ช. คือยุติธรรมอำพราง

วันนี้ (7 พ.ค.2558) นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ 
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
แถลงคัดค้านโตแย้งสำนวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ที่ขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งในคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือ
G toG ว่า
การปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งได้รับมอบนโยบายที่สำคัญจากคณะรัฐมนตรีในภารกิจเร่งด่วนเกี่ยวกับเรื่องของการระบายข้าวที่มีอยู่ในสต๊อกหรือโกดังกลางของรัฐบาล
เพื่อให้สามารถนำเงินที่ได้จากการระบายข้าวไปเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวและช่วยเหลือชาวนา
ซึ่ง
คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวที่ตนเองเป็นประธานก็ทำงานในรูปแบบของคณะบุคคล
โดยกรรมการก็ล้วนแล้วแต่เป็นฝ่ายข้าราชการประจำมีองค์ประกอบเดิม
ผู้แทนจากหน่วยงานเดิม เป็นบุคคลเดิมที่ถูกแต่งตั้งและปฎิบัติหน้าที่สมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ แทบทั้งสิ้น
ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ยังคงปฎิบัติตามธรรมเนียมปฎิบัติที่เคยทำมาจากทุกรัฐบาลทุกประการ
จึงขอยืนยันว่าการปฎิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยโปร่งใส  มิได้สมคบคิด หรือสวมรอยในการทุจริตแต่ออย่างใด


ทั้งนี้นายบุญทรงกล่าวย้ำถึงการระบายข้าวแบบ G to Gว่า ได้พยายามระบายข้าวทุกวิธีการ
ไม่ได้มุ่งขายข้าวแบบ G to G เพียงอย่างเดียว
แต่มีการระบายข้าวด้วยวิธีต่างๆ ทุกวิธีการ ทั้งการขายเป็นการทั่วไปให้กับผู้ประกอบการในประเทศเพื่อการส่งออกและ/หรือจำหน่ายภายในประเทศ
ด้วยวิธีการประมูล การขายให้องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หรือการบริจาคข้าวให้แก่ประเทศต่างๆ ที่ได้รับภัยพิบัติซึ่งการขายข้าวแบบ G to G มากกว่าแบบอื่นๆ ก็เพราะว่า
ในขณะนั้นมีสต็อกข้าวคงค้างจากรัฐบาลก่อนหลายล้านตัน และมีข้าวที่กำลังเข้ามาจากการรับจำนำหลายล้านตัน  รัฐจึงจำเป็นที่จะต้องขายข้าวแบบล็อตใหญ่ๆ และมั่นใจว่าจะได้รับชำระราคาอย่างแน่นอน

นอกจากนี้นายบุญทรงยังได้กล่าวยืนยันถึงผู้ซื้อทั้งสองรายคือ
บริษัท GSSG และ HAINAN ที่มีการซื้อขายข้าวกับรัฐบาลว่าเป็นรัฐวิสาหกิจจีนจริง เช่นเดียวกับ
COFCO เพราะทั้งสองรายรัฐบาลจีนถือหุ้น 100% และมีวัตถุประสงค์ในการค้าขายสินค้าเกษตรทุกชนิด  ซึ่งคณะกรรมการควบคุมและบริหารทรัพย์สินแห่งรัฐบาลประชาชนมณฑลกวางตุ้งได้มีหนังสือยืนยันว่า
บริษัท GSSG เป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนจริง
และคณะกรรมการควบคุมและบริหารทรัพย์สินรัฐบาลประชาชนมณฑลไห่หนานยืนยันว่า บริษัท HAINAN เป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนจริงเช่นเดียวกัน
 แต่ ป.ป.ช.กลับ
ละเลยไม่ตรวจสอบพยานหลักฐานจากฝ่ายผู้ซื้อคือ
GSSG ที่ได้มีหนังสือยืนยันจากรัฐวิสาหกิจจีนมาถึงประธานคณะกรรมการ
ป.ป.ช. อันเป็นพยานหลักฐานที่แสดงว่า
GSSG  เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจีนจริง
มีการอ้างพยานบุคคลเพื่อไต่สวนให้เห็นถึงสถานะของทั้งสองบริษัท แต่ ป.ป.ช.
กลับตัดพยานหลักฐานดังกล่าวออกเป็นการฟังความข้างเดียว
โดยไม่นำมาไต่สวน
เหมือนกับตั้งธงไว้ล่วงหน้า  ป.ป.ช.เป็นเสมือนต้นทางแห่งกระบวนการยุติธรรม
แต่กลับเลือกที่จะไม่สอบสอนไต่สวนพยานสำคัญ ที่ตนเองร้องขอ จึงขอเรียกพฤติกรรมของป.ป.ช.ที่ดำเนินการอยู่คือ ยุติธรรมอำพราง”

………………………………………