“ยิ่งลักษณ์” ไม่คาดหวังความเป็นธรรมจากรัฐบาล “จี้” รัฐตอบออกคำสั่งให้ชำระค่าเสียหาย ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร “เชื่อ” คดีนี้จะเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ว่าการช่วยเหลือประชาชนเสี่ยงมีความผิดและต้องรับผิดชอบ

“ยิ่งลักษณ์” ไม่คาดหวังความเป็นธรรมจากรัฐบาล “จี้” รัฐตอบออกคำสั่งให้ชำระค่าเสียหาย ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร “เชื่อ” คดีนี้จะเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ว่าการช่วยเหลือประชาชนเสี่ยงมีความผิดและต้องรับผิดชอบ

ดิฉันได้ฟังคำแถลงของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
ที่ใช้เวลานานร่วมชั่วโมงที่จะสร้างความชอบธรรมในการที่รัฐบาลนี้จะใช้วิธีให้กระทรวงการคลังออกคำสั่งให้ดิฉันชำระค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวแทนวิธีการที่กระทรวงการคลังจะฟ้องคดีแพ่งต่อศาล
ดิฉันคงไม่อยู่ในฐานะจะเรียกร้องอะไรหลังจากนี้แม้แต่คำว่า “ความเป็นธรรม” เพราะทุกอย่างคงจะดำเนินการไปตามที่รัฐบาลนี้ต้องการ  ดิฉันอยากจะขอฝากข้อคิดให้กับพี่น้องประชาชนได้พิจารณาว่า
การกระทำแบบนี้หรือที่ คสช. อ้างว่ายึดอำนาจแล้วจะสร้างความปรองดอง ความเป็นธรรม
และ หลักนิติธรรมในประเทศนี้ได้ ดังนี้

1.  รัฐบาลเลือกใช้วิธีให้กระทรวงการคลังออกคำสั่งให้ดิฉันชำระค่าเสียหายทั้งที่คดีอาญายังไม่เสร็จสิ้น
เท่ากับว่ารัฐบาลใช้อำนาจตุลาการแทนศาล และยังเลือกใช้มาตรา 44
คุ้มครองรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่สอบสวนข้อเท็จจริงให้พ้นจากการถูกฟ้องร้องใดๆ
จากดิฉันใช่หรือไม่

2.  ที่อ้างว่า
พรบ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
นั้นใช้มานานกว่า 19 ปี และกว่า 5,000 คดี ดิฉันเห็นว่าเวลาและจำนวนคดีไม่ใช่สาระสำคัญที่จะใช้เป็นข้ออ้าง
เพราะเชื่อว่ายังไม่มีคดีไหนเหมือนดิฉันซึ่งเป็นคดีแรกที่นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชนถูกยึดอำนาจ
ถูกดำเนินคดี จากนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาเพื่อช่วยเหลือประชาชน
จะเป็นเรื่องของการที่ทำให้รัฐต้องเสียหาย
และต้องรับผิดชอบทั้งที่คดีอาญายังไม่เสร็จสิ้น

3.  รัฐบาลต้องตอบกับพี่น้องประชาชนด้วยว่า
การที่เลือกใช้วิธีให้กระทรวงการคลังออกคำสั่งให้ดิฉันชำระค่าเสียหายนั้น
ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร และจะรับประกันได้หรือไม่ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ
ไม่อยู่ภายใต้การชี้นำ แต่สามารถใช้ดุลพินิจได้อย่างถูกต้อง และเที่ยงธรรมเช่นศาล
แม้รัฐบาลพยายามที่จะพูดว่าขั้นตอนยังไม่เป็นที่สิ้นสุดและสามารถใช้วิธีการฟ้องคดีแพ่งต่อศาลได้
แต่กลับไม่มีคำตอบว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ให้กระบวนการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นไปตามขั้นตอนของศาลยุติธรรมเพื่อเป็นหลักประกันแห่งการอำนวยความยุติธรรมแทนการใช้วิธีให้กระทรวงการคลังออกคำสั่งให้ดิฉันชำระค่าเสียหาย

4.  อะไรที่เรียกว่าสร้างความเสียหายต่อรัฐอย่างร้ายแรง
ทั้งๆที่โครงการรับจำนำข้าวได้จ่ายเงินตรงถึงมือชาวนาผ่าน ธกส. ทุกบาททุกสตางค์

5.  การเพิ่มประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเป็น
“พยานล่วงหน้า” ในคดีอาญา
ถือเป็นข้อสังเกตที่เป็นนัยยะสำคัญว่าอาจนำผลการสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีแพ่ง
ทั้งที่ยังไม่มีข้อยุติมาทำให้เป็นผลร้ายกับดิฉันในคดีอาญาหรือไม่

สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นข้อสังเกตที่ดิฉันขอฝากไว้กับพี่น้องประชาชนเพื่อพิจารณา
คงไม่คาดหวังความเป็นธรรมจากรัฐบาลนี้อีกแล้ว ดังนั้นหากรัฐบาลตัดสินใจอย่างไร
กรณีนี้ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่คงต้องจารึกในหัวใจของดิฉันและประชาชน
และจะเป็นบรรทัดฐานที่นำไปใช้กับนายกรัฐมนตรีที่ดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนหลังจากนี้ต่อไป

https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/photos/a.106877456023385.4057.105044319540032/1111438588900595/?type=3&theater