“นิยม” ชี้ “ประยุทธ์” อยู่นานประชาชนยิ่งแย่ หวั่นงบภัยแล้งหลายหมื่นล้านเป็นงบไอติม ไม่เกิดประโยชน์
(3 ก.พ. 63) นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การบริหารงานของรัฐบาลแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้หลักการบริหารงานบนความไม่รู้เรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง บริหารแบบข้าเก่งข้าแน่ ไม่ฟังคำแนะนำจากพรรคฝ่ายค้าน ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น แต่รัฐบาลแกล้งไม่ได้ยินหรือไม่สนใจในปัญหาของประชาชน ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนที่มีการพูดถึงกันในทุกมิติแต่รัฐบาลมักอ้างว่าทำแล้ว หรือกำลังดำเนินการ แต่ประชาชนในพื้นที่ทราบดีว่ารัฐบาลไม่เคยทำอะไรให้ดีขึ้นมาเลย
“ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทย ได้ส่งสัญญาณเตือน พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอดว่าปีนี้ภัยแล้งมาเร็วและรุนแรงมาก ประมาณการว่าจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรในหลายพื้นที่ของประเทศ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับฟัง และเมินเฉยต่อการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่อยากแก้หรือรัฐแก้ไม่เป็น เพราะไม่มีปัญญาจะแก้ปัญหา นี่คือความไม่รู้ของรัฐบาล”
นายนิยม กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาภัยแล้งนั้นจะต้องแก้แบบมีแผนงาน มีการบูรณาการร่วมมือกันทุกกระทรวง อย่าเอาง่ายเข้าว่าด้วยการใช้งบประมาณหลาย 10,000 ล้านบาท ขุดลอกคูคลองอย่างเดียว ส่งผลให้งบประมาณที่ตั้งขึ้นมากลายเป็นงบไอติมใส่เข้าไปเท่าไหร่ก็ละลายหายไปเข้ากระเป๋าใคร เพราะที่ผ่านมามีรัฐบาลใช้งบประมาณมากกว่า 8,000 ล้านบาท ให้หน่วยงานทหารเข้าไปดำเนินการขุดลอกคูคลอง สุดท้ายไม่มีผลงานแถมมีข้อครหาเรื่องการทุจริตมากที่สุด แต่รัฐก็ไม่มีการตรวจสอบ สุดท้ายงบประมาณก็ละลายไปในที่สุด
“ที่น่าเป็นห่วงสำหรับสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นคือ ปริมาณน้ำในเขื่อนที่น้อยมาก ส่งผลให้เขื่อนหลายเขื่อนในประเทศไทยมีโอกาสที่จะแตกร้าว รัฐบาลไม่มีการพูดถึง หรือรอให้เกิดปัญหาจะได้เบิกงบประมาณไปซ่อมแซมเขื่อนแบบนี้ใช่หรือไม่ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ใช้วิธีการบริหารแบบนี้ก็ลาออกเถอะครับ เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ต่อประเทศ บริหารไม่เป็นก็อย่าดันทุรัง เพราะยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่นานประชาชนยิ่งลำบากอย่างแสนสาหัสมากขึ้น”