นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ บริหารจัดการการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าที่จะจัดส่งในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป จากเดิมวัคซีน 1 ขวดฉีดได้ 10 โดส ต้องทำให้ฉีดให้ได้ 12 โดส เพื่อประหยัดงบประมาณและกระจายวัคซีนให้ได้มากขึ้นนั้น การที่รัฐบาลเลือกแนวทางนี้เพราะบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาด มีวัคซีนไม่เพียงพอต่อการคุมสถานการณ์ใช่หรือไม่

ทั้งนี้ถึงแม้วัคซีนที่บรรจุ 1 ขวดตามหลักปฏิบัติแล้วจะบรรจุปริมาณเกินเผื่อไว้สำหรับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น แต่การบังคับให้บุคลากรหน้างานกระจายวัคซีนให้ได้จำนวนโดสเพิ่มขึ้น จะสามารถยืนยันได้อย่างไรว่าประชาชนทุกคนจะได้รับปริมาณวัคซีนที่เพียงพอในแต่ละโดส จึงอยากเรียกร้องไปถึงบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ให้ออกมายืนยันถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยทางการแพทย์ว่าทำได้หรือไม่ หากมีประชาชนได้รับวัคซีนในปริมาณที่น้อยเกินค่าปกติ จะส่งผลต่อการป้องกันหรือควบคุมโรคอย่างไร และมีความเสี่ยงอื่นๆเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะปัจจุบันประชาชนคนไทยคงไม่อาจเชื่อถือคำตอบจากฝั่งของรัฐบาลได้อีกแล้ว

“ภายใต้สถานการณ์วิกฤต ภารกิจใหญ่อันดับแรกคือต้องควบคุมโรคและสร้างความเชื่อมั่นกลับมาคืนให้ได้ แทนที่จะใช้กลไกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในการเร่งหาวัคซีนให้เพียงพอ รัฐบาลกลับเลือกวิธีประหยัดไม่เข้าเรื่อง รัฐบาลต้องคิดใหม่ ยึดหลักปฏิบัติตามมาตรฐานสากล อย่าเอาความประหยัดมานำความปลอดภัยและชีวิตของประชาชน” นายชนินทร์กล่าว