“เพื่อไทย” จี้ “ประยุทธ์” เร่งปล่อยกู้ 0% ธุรกิจท่องเที่ยว ห่วง แผนการเปิดประเทศไม่แน่นอนจะยิ่งเสียหาย แนะ จัดหาวัคซีนคุณภาพเร่งกระจายให้ครบถ้วนโดยด่วนโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการ คณะทำงานเศรษฐกิจ และประธานอนุกรรมการนโยบายด้านการท่องเที่ยวพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นห่วงธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก เพราะขนาดปีที่แล้วว่าแย่หนักแล้ว แต่พอมีการระบาดระลอกใหม่นี้ทำให้การท่องเที่ยวยิ่งทรุดหนัก ตัวเลขสะสม 5 เดือน ตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค.64 ในภาพรวมประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียง 1.25 แสนล้านบาท ติดลบถึง – 35.07% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน แยกเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 34,753 คน ติดลบ 99.48% และไทยเที่ยวไทย 23.60 ล้านคน ติดลบ 7.82% ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวที่แย่อยู่แล้วยิ่งทรุดลงหนัก และยังไม่รู้เลยว่าจะฟื้นกลับมาได้อีกเมื่อไหร่ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่ากว่าการท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นน่าจะเป็นปี 2566 หรืออีกปีครึ่งเลย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่พลเอกประยุทธ์จะต้องเข้ามาช่วยเหลือให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยสามารถประคองต้วได้ไปก่อนที่การท่องเที่ยวไทยจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้แนวทางการให้ซอฟท์โลน 0% แก่ภาคธุรกิจ ที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยเสนอไว้ตั้งแต่กลางปีที่แล้วและพลเอกประยุทธ์เพิ่งจะนำมาใช้ จึงเป็นทิศทางที่ถูกต้อง แต่ต้องมีแผนงานในการให้ธุรกิจท่องเที่ยวได้เข้าถึงซอฟท์โลนนี้อย่างชัดเจนและทั่วถึง จากข้อมูลที่ได้รับสินเชื่อธุรกิจท่องเที่ยวในระบบธนาคารน่ามีประมาณ 4-5 แสนล้านบาท หนี้สินส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรม ซึ่งน่าจะมีปัญหาการชำระหนี้เกือบทั้งหมด เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มาเลยจากวิกฤติการณ์ไวรัสโควิด ดังนั้นรัฐบาลควรจะต้องหาวิธีช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยรัฐบาลสามารถร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการปล่อยซอฟท์โลน 0% โดยรัฐบาลสนับสนุนในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเท่านั้นที่ ธปท. สามารถลดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำให้กับรัฐบาลได้ โดยรัฐบาลควรจะลดการแจกเงินแต่นำเงินมาสนับสนุนการอยู่รอดของธุรกิจมากกว่า เพราะจะเป็นรายได้ของประเทศในอนาคต และเป็นการรักษาการจ้างงานด้วย
นอกจากนี้ แผนงานการเปิดประเทศใน 120 วันจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ ถ้าดูสภาวะการณ์ปัจจุบันแล้ว น่าจะเป็นไปได้ยากมากเพราะไม่ทันท่วงที ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องรีบแจ้งกับประชาชน โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว เพราะธรรมชาติของธุรกิจนี้จะต้องรับการจองล่วงหน้า ไม่ใช่เปิดแล้วคนจะมาทันที ต้องทำการตลาดล่วงหน้าเป็นเดือนๆ บางครั้งก็เป็นปี ดังนั้นการกำหนดการเปิดประเทศต้องมีความแน่นอน เพราะหากรับจองแล้ว ไม่สามารถเปิดได้ จะเสียหายอย่างมากและอาจถูกฟ้องร้องได้ อีกทั้งถ้าเปิดประเทศโดยไม่ทำการตลาดล่วงหน้าก็จะไม่มีใครมาอยู่ดี พลเอกประยุทธ์ที่เป็นทหารมาตลอดชีวิตอาจจะไม่เข้าใจคนทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวนี้มีความละเอียดอ่อนมาก ยิ่งในอนาคตไทยต้องการต้อนรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก ยิ่งต้องมีระดับการบริหารที่ต้องยกสูงขึ้นไปอีก เพื่อชักจูงนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเข้ามาเที่ยวไทย โดยคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้มีนโยบายและเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และเชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยได้บริหารประเทศ จะสามารถชักจูงให้นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้ เพราะนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก 1 คนอาจจะสร้างรายได้มากกว่านักท่องเที่ยวปกติถึง 50-100 คนได้จากการใช้จ่ายและช้อปปิ้งตามฐานะ
เรื่องที่สำคัญที่สุดก็ยังคงไม่พ้นเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ที่พลเอกประยุทธ์ล้มเหลวซ้ำชากทั้งที่พรรคเพื่อไทยเสนอแนวทางแก้ไขมาเป็นเดือนๆแล้ว แต่พลเอกประยุทธ์กลับไม่ยอมทำตาม และยังล้มเหลวเหมือนเดิม เหมือนบริหารไม่เป็น หรือฟังไม่เข้าใจ เป็น “ผู้นำพิการทางความคิด” ทั้งไม่เปิดใจรับฟัง การที่ต้องมีวัคซีนที่มีคุณภาพมากระจายการฉีดอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในจังหวัดและพื้นที่ท่องเที่ยวเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำให้สำเร็จตั้งแต่ต้นปีแล้วเพื่อจะได้เปิดประเทศรับการท่องเที่ยวได้ ถึงจะเป็นแบบแซนด์บ็อกซ์ก็ยังดีกว่าไม่มีนักท่องเที่ยวเลย จนกระทั่งฉีดได้ครบเมื่อไหร่ ก็สามารถเปิดทั้งประเทศได้ ปัจจุบันนอกจากวัคซีนจะล่าช้าแล้ว ยังมีปัญหาคุณภาพของวัคซีน จำนวนครั้งที่ต้องฉีดของวัคซีนแต่ละชนิด การตรวจภูมิของแต่ละคนอีกว่าขึ้นไหม และทั้งยังไม่แน่ใจว่าถึงฉีดครบ ก็ไม่รู้จะเปิดประเทศได้หรือไม่ จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์คิดให้ครบกรอบ ไม่ใช่คอยแต่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ประเทศมีปัญหามากขึ้น
ในภาวะวิกฤติไวรัสโควิดนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถการบริหารจัดการของผู้นำ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพลเอกประยุทธ์ล้มเหลวในทุกด้านและทุกมิติ บริหารผิดพลาด พาประเทศไปผิดทิศผิดทางในทุกเรื่อง ถ้าพลเอกประยุทธ์จะใช้สติพิจารณาตัวเอง ก็จะพบว่าตนเองไม่ได้เหมาะสมที่จะมาบริหารประเทศนี้อีกต่อไปแล้ว ยิ่งบริหารก็จะยิ่งเสียหาย อย่าได้ฝืนดันทุรังอีกเลย ประชาชนจะยิ่งทนกันไม่ไหว ทุกวันนี้ก็ด่ากันทั้งเมืองอยู่แล้ว