อนุสรณ์ ชี้ ผลพวงสงครามเย็น ประยุทธ์-ประวิตร ประชาชนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี การลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เป็นอีกสถานการณ์ที่เห็นชัดว่ารัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาทางการเมืองของตนเองมากกว่าปัญหาของประเทศชาติและประชาชน ต่างฝ่ายต่างงัดกลยุทธ์เล่นเกมการเมืองวัดพลังกันอย่างเต็มที่ สภาพเหมือนสงครามเย็นที่ต่างฝ่ายต่างแพ้ไม่ได้ รัฐบาลสอบตกการแก้ไขปัญหาสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังสอบตกการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม การลงพื้นที่ประลองกำลังไปตรวจนำ้ท่วมของแกนนำทั้ง2ฝ่ายในรัฐบาลนั้นประชาชนไม่ได้ประโยชน์ สิ่งที่ควรทำมากกว่าคือการดำเนินการแก้ปัญหานำ้ท่วมนำ้แล้งตามแผนบริหารจัดการนำ้ระดับชาติทั้งระบบครบวงจรและยั่งยืน 7 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง โอกาสอยู่ต่อของรัฐบาลนี้ริบหรี่ลงทุกขณะ ไม่ต้องรอไปไกลถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แค่กฎหมายปกติ ตามคิวที่ ครม.ต้องนำเสนอร่าง พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯเข้าสภา ก็ยังเสี่ยงแบบที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยอมรับ ถ้าโดนคว่ำ รัฐบาลต้องลาออก หรือกฎหมายเกี่ยวกับการเงินที่พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งไฟเขียวการกู้เงินทะลุเพดาน 70 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ที่ต้องกู้เงินมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็เสี่ยงติดล็อกมีโอกาสถูกเท พลิกคว่ำกลางสภาได้สูง
“รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แก้โควิดล้มเหลว แก้น้ำท่วมก็ล่าช้า วิกฤตโรคระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ การเมืองไร้เสถียรภาพ แกนนำรัฐบาลทำสงครามเย็น ประชาชนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”นายอนุสรณ์ กล่าว