“สุขสมรวย จิรายุ” ซัดเดือด.! จิรายุ บอกก็แค่ทำหน้าที่แทนประชาชน หลัง ก.คมฯส่งเลขา รมต. “นางสุขสมรวย”ออกมาโชว์พาวตอบโต้กรณี กมธ.แนะยังไม่ควรเปิดให้รถไฟฟ้าสายสีแดงวิ่งอย่างเป็นทางการ หลังมีการโจรกรรมสายไฟในเส้นทางเดินรถตลอดการทดลองวิ่ง 2 เดือนที่ผ่านมา
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การมหาชนและกองทุนกล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมาธิการลงตรวจสอบการเปิดให้บริการซึ่งตนมีความเห็นไปว่ารถไฟฟ้าสายสีแดงของการรถไฟแห่งประเทศไทยภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เปิดทดลองวิ่งจากรังสิต ผ่านสถานีบางซื่อ ไปยังตลิ่งชันมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนจะครบกำหนด ที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในสิ้นเดือนนี้ว่าถ้ายังไม่สามารถดูแลเรื่องความปลอดภัยได้ 100% ก็ไม่ควรเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าคณะกรรมาธิการได้มีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขของกระทรวงคมนาคม แต่แทนที่กระทรวงคมนาคมจะอธิบายหรือเร่งแก้ไขเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ กลับให้นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมาตอบโต้ จนไม่รู้ว่า ตกลงสายสีแดงปลอยภัยหรือไม่ และตนไม่อยากให้คิดว่า การตรวจสอบหรือคำแนะนำของฝ่ายค้าน เป็นเรื่องกวนใจไปเสียหมดทั้งๆ ที่ควรจะสั่งการและกำชับให้การรถไฟได้เร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน เหมือนใครแตะต้องไม่ได้ตนจึงอยากถามไปยัง ผู้บริหารของกระทรวงคมนาคมและนางสุขสมรวย ในฐานะเลขา รมว.คมนาคมเนื่องจากคำตอบโต้ของนางสุขสมรวย เป็นการยอมรับว่ามีการเข้าไปลักลอบตัดสายไฟของ รถไฟฟ้าจริง และมีความเสี่ยงสูงตามที่กรรมาธิการแนะนำเอาไว้ตนจึงขอสอบถาม 6 ประเด็นดังนี้
- กระทรวงคมนาคมยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการโจรกรรมสายไฟในรถไฟฟ้าสายสีแดงได้ 100% ใช่หรือไม่เพราะเลขารมต. พูดยอมรับว่ามีโจรขโมยสายไฟจริงแต่จับได้แล้ว ตน สงสัยว่าคนร้ายมีแค่คนเดียว จะขโมยแค่ครั้งเดียวและเมื่อจับได้แล้วจบเลยใช่หรือไม่
ประชาชนที่ใช้บริการเขาจะต้องเสียค่าตั๋ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่า มีความปลอดภัยขนาดไหนและกล้ารับประกันหรือไม่ว่าจะไม่มีใครเข้ามาโจรกรรมสายไฟฟ้า อันมีโอกาสที่อาจจะเกิดอุบัตเหตุครั้งสำคัญของประเทศได้ใช่หรือไม่
2.รฟท.ยังไม่สามารถติดตั้งระบบความปลอดภัย ในทางวิ่งหรือระบบเซ็นเซอร์จับสัญญาณผู้บุกรุกหรือปิดกั้นไม่ให้มีผู้บุกรุกเข้าไปในเส้นทางเดินรถหรือมีระบบการป้องกันระบบไฟฟ้าต่างๆ ใช่หรือไม่
3.การที่เลขารมต.บอกว่า ”รถไฟสายนี้ตรงต่อเวลาตลอด “ถ้านางสุขสมรวย ไม่รู้หรือไม่ทราบความจริงก็ไม่ควรพูดให้ประชาชนไขว้เขวควรไปดูรายงานของการรถไฟในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาว่าล่าช้าไปมากกว่า 50 ครั้งหรือไม่ ถ้าไม่เคยล่าช้าแม้แต่ครั้งเดียวตนจะไปเดินถือตะกร้าให้ 3 เดือน
4.การที่นางสุขสมรวย กล่าวว่า
“ขอให้มีความมั่นใจในความปลอดภัยการใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง เนื่องจากโจรเข้าไปตัดชุดสายเคเบิลดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับระบบจ่ายไฟฟ้าสำหรับป้องกันอันตรายการบำรุงรักษาของพนักงานที่ลงไปทำงานในเส้นทางรถไฟฟ้าเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลต่อการเดินรถ หรือกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในขบวนแต่อย่างใด “ตนฟังแล้วน้ำตาจะไหลแทนพี่น้องประชาชนและขอถามว่าแค่ตัดสายไฟแม้แต่เส้นเดียวไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับอะไรของรถไฟฟ้าสายสีแดงประชาชนควรจะมั่นใจ ไปจ่ายตังค์ใช้บริการใช่หรือไม่
ซึ่งกระทรวงฯควรจะเอาเวลาไปหาทางป้องกันมากกว่ามาแก้ต่างแบบนี้เพราะจากรายงานก็พบว่ามีผลกระทบทำให้รถหยุดเดินหลายครั้งถ้าเลขานุการ ไม่ทราบลองไปขอรายงานดู
5.การที่นางสุขสมรวย กล่าวหาว่าตนจะใช้ข้ออ้างว่าการโจรกรรมสายไฟในเส้นทางวิ่งของรถไฟฟ้าสายสีแดงเพื่อเป็นเหตุให้เลื่อนการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการนั้น ถามจริง! ตนสั่งเลื่อนหรือสั่งเปิดได้จริงหรือ
และขอเรียนว่าตนไม่มีส่วนได้เสียหรือมีผลประโยชน์ใดๆ ต่องบประมาณแผ่นดินหรือเอื้อต่อเอกชนรายไหนหรือไปหากินกับรัฐวิสาหกิจใด ตนมีผลประโยชน์อย่างเดียวคือความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้บริการ ตนอยากถามว่า แทนที่จะมาตอบโต้ซึ่งกรรมาธิการก็มีความห่วงใยต่อประชาชนควรเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการโจรกรรม ลักตัดสายไฟ หรือมีผู้บุกรุกอีก ถ้าทำได้ 100% เต็มก็เปิดให้บริการให้กับพี่น้องประชาชนได้ ก็เท่านั้นเองไม่เห็นจะมีอะไรน่าตื่นเต้นหรือน่าโมโหแต่อย่างใด - และตนอยากถาม ท่านเลขานุการว่าถ้าเกิดมีอุบัติเหตุขึ้นมา ไม่ว่าจะถูกตัดสายไฟกี่เส้นอยากถามนางสุขสมรวย และผู้บริหาร กระทรวงคมนาคมว่าสามารถรับผิดชอบชีวิตพี่น้องประชาชนหากเกิดการบาดเจ็บล้มตายได้หรือไม่
- นอกจากนั้นตนอยากถามว่าทำไมเวลารัฐบาลชี้แจงอะไรไม่ได้ ต้องชอบโทษรัฐบาลอื่น จึงอยากให้นางสุขสมรวย ทำหน้าที่ ข้าราชการ ของกระทรวงที่กินเงินเดือนภาษีของประชาชนเมื่อมีคนแนะนำติติงก็แค่แก้ไขปรับปรุงและสร้างความมั่นใจจะดูเป็นที่พึ่งของประชาชนมากกว่าการออกมาตอบโต้เช่นนี้ “เพราะตนก็ไม่ได้กล่าวหาหรือตำหนิติเตียนเลขานุการเป็นการส่วนตน แต่เป็นการแนะนำและติติงอันเป็นประโยชน์สาธารณะยิ่งเพื่อให้นำไปสู่การแก้ไข เพราะฝ่ายบริหารตั้งแต่รัฐมนตรียันเลขานุการก็กินเงินเดือนจากภาษีของพี่น้องประชาชนเหมือนกับฝ่ายค้าน และตนจะตรวจสอบการรถไฟจนกว่าจะมีความพร้อมเพื่อความปลอดภัยของการให้บริการแก่ประชาชน” นายจิรายุกล่าว