แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย ก้าวข้ามฝันร้ายและคราบน้ำตา 2564 สู่ความหวังและชีวิตใหม่ 2565

ความล้มเหลวผิดพลาดบกพร่องซ้ำซากของรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตลอดปี 2564 ทำให้ชีวิตและลมหายใจของประชาชนตกอยู่ภายใต้วิกฤตที่หนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ หยาดน้ำตาและเสียงสะอื้นของพี่น้องประชาชนดังระงมไปทั่วทั้งแผ่นดิน

รัฐบาลไร้ศักยภาพ ประมาท และหละหลวม ขาดความรู้ความเข้าใจและไม่รับฟังเสียงประชาชน ประเมินสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผิดพลาด นำมาซึ่งการบริหารจัดการที่ล้มเหลว จนโรคแพร่ระบาดขยายวงกว้าง ระบบสาธารณสุขประเทศล่มสลาย ทำลายชีวิตผู้คน คนไทยต้องตายคาบ้าน ตายกลางถนน ตายข้างถนน ไม่มีแม้โอกาสได้เข้าสู่ระบบการรักษาตามสิทธิที่พึงมี อีกทั้งยังยกระดับวิกฤตสุขภาพสู่วิกฤตเศรษฐกิจ มาตรการรุนแรงแบบหว่านแห สร้างภาระให้ประชาชน เศรษฐกิจหยุดชะงัก ประชาชนต้องตกงาน ขาดรายได้ สิ้นเนื้อประดาตัวอดอยาก จนประเทศต้องตกอยู่ในห้วงของฝันร้ายกลียุค

การระบาดใหม่ของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่เกิดขึ้นทั่วโลกขณะนี้ รัฐบาลยังคงมีวิธีคิดราว ‘ชีวิตและลมหายใจประชาชนเป็นของเล่น’ สบประมาท ‘โควิดกระจอก’ ย่ามใจไม่เตรียมพร้อม กำลังจะพาพี่น้องประชาชนต้องไปเผชิญชะตากรรม และจมอยู่กับวิกฤตเศรษฐกิจไม่รู้จบ ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ ที่ผ่านมารัฐบาลผลาญงบประมาณแผ่นดินมหาศาลไปกับการเยียวยาฟื้นฟูที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ อีกทั้งยังนำเงินในอนาคตของประชาชน ไปสร้างมหกรรม ‘แจกเทกระจาด’ แฝงการเอื้อประโยชน์พวกพ้องและส่อว่าอาจจะหาประโยชน์ทางการเมือง เงินกู้มหาศาลถูกใช้จ่ายไปอย่างไร้ค่า ทิ้งไว้เพียงภาระหนี้สินประเทศชาติและประชาชน ‘ขโมยเงินอนาคตและโอกาสของประชาชนไปจนหมดสิ้น

ความรุนแรงจากวิกฤตโรคระบาดร้ายแรงไม่น้อยกว่าความรุนแรงจากรัฐคลั่งอำนาจ ตลอดปี 2564 มีการใช้อำนาจและกฎหมายที่บิดเบือน กลั่นแกล้ง คุกคามประชาชนอย่างรุนแรง ประชาชน นิสิต นักศึกษา ทั้งที่ออกมาเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มุ่งหวังการคืนประชาธิปไตย หรือแม้แต่ประชาชนที่ออกมาสะท้อนความเดือดร้อนจากนโยบายรัฐ เช่น พี่น้องจะนะรักษ์ถิ่น กลับถูกใช้กำลังความรุนแรงเข้ากดปราบและดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม มองประชาชนเป็นปฏิปักษ์และภัยต่อความมั่นคงที่รัฐจะต้องกำจัด

ความย่อยยับตลอดปี 2564 มีเหตุแห่งปัญหามาจากรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน ดำเนินนโยบายและบังคับใช้กฎหมายโดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากของประชาชน ไม่รับฟังเสียงสะท้อนและผลกระทบ อันเป็นผลโดยตรงจากรัฐธรรมนูญ 2560 ที่บิดเบือนกลไกประชาธิปไตย ช่วงชิงอำนาจรัฐบาลห่างไกลจากประชาชน นายกรัฐมนตรีไม่ต้องได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนแต่ถูกแต่งตั้งขึ้นโดยการสนับสนุนของ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาลได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.ปัดเศษและงูเห่า ถูกจัดตั้งขึ้นได้โดยไม่คำนึงถึงประชาชนว่าได้ลงมติไว้วางใจให้เข้ามาบริหารประเทศหรือไม่

พรรคเพื่อไทยซึ่งมีตัวแทนอยู่ทั่วประเทศรับฟังเสียงสะท้อนและปัญหาของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สำนึกต่อความสำคัญของพี่น้องประชาชน ‘รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคมและประชาชน’ คืนเกียรติและศักดิ์ศรีให้ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม รับฟังและดำเนินนโยบายโดยคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง เฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตโรคระบาดที่เผชิญอยู่ในขณะนี้ ควรศึกษาบทเรียนความผิดพลาดที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงมาตรการ ระมัดระวัง ป้องกันและเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุขเพื่อรองรับปัญหาบรรเทาสถานการณ์ไม่ให้เกิดความสูญเสียและวิกฤตซ้ำรอยเดิมอีก

พรรคเพื่อไทย ตระหนักเสมอว่าเราและพี่น้องประชาชนคือสมาชิกครอบครัวเดียวกัน ในวิกฤตที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเรา เราจึงเข้าใจ เห็นใจและช่วยเหลือกันให้รอดพ้นจากวังวนของปัญหาไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ดังนั้นในปี 2565 เราจะเดินหน้าคืนความหวังความฝันของคนทุกวัย ทุกฐานะ ทุกวิถีชีวิตที่ฝันถึงความเป็นอยู่ที่ดีและสานฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง เราจะมุ่งไปสู่หนทางของเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู พี่น้องคนไทยจะกลับมามีความหวังถึงการทำงานที่ดีและการมีรายได้ที่ดี เราจะหลอมรวมผู้คนเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและมีอนาคตที่ดี เราจะทำทุกวิถีทางที่จะสนับสนุนผู้แทนของประชาชนอย่างแท้จริง ทวงคืนอำนาจของประชาชนเพื่อเปลี่ยนอนาคตให้ประชาชน และจะรวมพลังประชาชนเพื่อมุ่งไปสู่ความหวังที่จะเปลี่ยนรัฐบาล คืนรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยเพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อผ่านวันนี้ไป พรุ่งนี้จะมีความสุขความสำเร็จกลับมาอีกครั้ง พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน

พรรคเพื่อไทย
25 ธันวาคม 2564