นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส. ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ การระบาดของไวรัสโควิด ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจพังทั้งระบบ หลายบริษัทปิดตัว ลดจำนวนพนักงาน ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน ในปีที่ผ่านมาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย พบว่าจากการระบาดของไวรัสโควิดและปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นอยู่อาจส่งผลกระทบต่อภาคแรงงาน ประมาณการณ์ว่า ตัวเลขแรงงานตกงานประมาณ 3-3.3 ล้านคนตลอดทั้งปี ขณะเดียวกันนักศึกษาจบใหม่ประมาณ 500,000 คนต่อปี ยังไม่เข้าสู่ระบบแรงงาน เป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลแก้ไม่ตก

ปัญหาที่ตามมาคือ หนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นสวนทางกับรายรับ ราคาสินค้าเกษตรก็ตกต่ำ นอกจากนี้รัฐบาลยังปล่อยให้สินค้า เกษตรจากจีน เข้ามายึดตลาดไทย หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลทำให้เกษตรกรถูกนายทุนเอาเปรียบ รับซื้อสินค้าในราคาที่ต่ำส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรตกต่ำลง กระทบกับเศรษฐกิจในพื้นที่และรายได้ครัวเรือน

นายปิยวัฒน กล่าวด้วยว่า จากปัญหาน้ำมันแพง ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง เพราะเมื่อน้ำมันแพง ปัญหาที่ตามมาหวั่นใจว่ารัฐบาลจะแอบลักไก่ขึ้นราคาก๊าซหุงต้มและค่าไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของประชาชน เพราะราคาสินค้าจะปรับขึ้นตามต้นทุนราคาก๊าซหุงต้ม ผลจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมินเฉยต่อการแก้ปัญหาราคาน้ำมัน ส่งผลกระทบกับประชาชนทุกกลุ่ม

“ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ให้ความสำคัญกับกลุ่มทุนใหญ่มากกว่า ส่วนที่บอกว่าจะใช้เวลาที่เหลือช่วงสุดท้ายของรัฐบาลแก้ปัญหาความยากจน ชัดเจนว่า 7 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ไม่เคยให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาให้ประชาชนเลย หลายครอบครัวเผชิญปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งนี้เพราะพลเอกประยุทธ์ มาจากกองทัพไม่มีความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และยึดติดอำนาจจนเคยตัว หากยังไม่ยอมรับและลงจาก ตำแหน่งประชาชนคงหมดความอดทนและอดตายทั้งประเทศอย่างแน่นอน” นายปิยวัฒน กล่าว