นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผลพวงจากกัญชาเสรีที่ไม่มีกฎหมายป้องกันรองรับ ทำให้สถิติผู้ป่วยจากการเสพกัญชา เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวนมากขึ้น ผู้คนในสังคมเสพกัญชาเมาหลอน ลูกหลานเยาวชนเข้าถึงยาเสพติดได้ง่าย แทนที่จะได้ประโยชน์หลักจากที่เคยตั้งเป้าเอาไว้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และการสร้างผลดีต่อเศรษฐกิจ กัญชากลับกลายเป็น “ประตูบานแรก” ที่เปิดไปสู่ยาเสพติดชนิดอื่นที่แรงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อยและบางคนถึงขั้นเสพจนเสียชีวิต ดังนั้นแม้กัญชาจะมีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่โทษในเรื่องของการเสพติดนั้นไม่ใช่สิ่งที่อาจมองข้ามได้เลย

ส่วนกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชากัญชงออกมาตอบโต้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้สะท้อนภาพจริงขณะเดินทางผ่านถนนข้าวสารและถนนพระราม 8 โดยได้กลิ่นของการสูบกัญชา พร้อมแสดงความห่วงใยว่าอาจส่งผลกระทบระยะยาว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาดูแล ส่วนตัวเห็นว่านายศุภชัยไม่ควรออกตอบโต้คนที่ติติงเพื่อประโยชน์โดยใช้อารมณ์และขาดข้อมูล นายศุภชัยเป็นคนในพรรค เป็นรัฐมนตรี ควรต้องรับผิดชอบแก้ไข ไม่ใช่เสียดสีกลับ เพราะปัจจุบัน นโยบายกัญชาเสรีจะทำให้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงตลอดไป นายศุภชัย และคนในพรรคภูมิใจไทย เคยรู้บ้างหรือไม่ว่า ทุกวันนี้มีกัญชาและผลิตภัณฑ์ท่ีมีส่วนผสมของกัญชาจำหน่ายและขายกันในร้านสะดวกซื้อแล้ว แบบนี้จะบอกว่า นโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ได้อย่างไร พี่น้องประชาชนบางส่วนอาจได้รับประโยชน์จากการทำธุรกิจท่ีเกี่ยวข้องกับกัญชา แต่โทษและปัญหาท่ีจะเกิดกับสังคมและประเทศชาติในอนาคต โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนใครจะรับผิดชอบ

นางสาวตรีชฎา กล่าวอีกว่า วันนี้คนไทยจำนวนหนึ่งปลูกกัญชาเหมือนช่วงหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกษตรกรปลูกหมามุ่ย คนแห่กันปลูก สุดท้ายล้นตลาดไม่มีผู้รับซื้อเพื่อการค้า แตกต่างตรงที่กัญชาหลายประเทศทั่วโลกยังประกาศเป็นยาเสพติด มีการแจกเมล็ดกัญชาให้ประชาชนปลูก พอต้นโตใกล้เก็บเกี่ยวจะเอาไปขายให้ใคร สุดท้ายก็จะเป็นการแปรรูปเพื่อเป็นการสันทนาการขายกันเองในประเทศหรือไม่ ทั้งหมดคือข้อกังวลที่อาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี อาจเป็นการกลับมาของยาเสพติดในรูปแบบที่ถูกกฎหมาย คนเป็นนายกรัฐมนตรีควรจัดการประกาศแขวนนโยบายกัญชาเสรีไว้ชั่วคราวให้เป็นผลงานและเป็นเกียรติประวัติให้คนไทยทั้งประเทศจดจำก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะหมดวาระการเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในอีกไม่กี่วันนี้มากกว่า