ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม แถลงขอโทษพร้อมสำนึกผิด ที่เคยร่วมชุมนุมทางการเมืองปี 56 จนนำมาซึ่งการสืบทอดอำนาจ สร้างความเสียหายประเทศ

นางสาวณิชาภา โกวิทานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย จ.สมุทรสงคราม กล่าวขอโทษและสำนึกผิด ที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง ในการชุมนุม ปี พ.ศ. 2556 โดยยอมรับว่า ด้วยความเข้าใจผิด จนเป็นเหตุให้รัฐบาลชุดนี้เข้ามาสืบทอดอำนาจและได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ และผู้รักประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก

นางสาวณิชาภา กล่าวอีกว่า ขอ​กราบขอโทษอย่างจริงใจต่อพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และพี่น้องประชาชนผู้รักในประชาธิปไตยทุกท่าน ขอยืนยันว่าในทุกๆเหตุการณ์ ตนเองไม่เคยขึ้นปราศรัย ไม่เคยพูดจาหยาบคาย ไม่เคยใส่ร้ายป้ายสี ไม่เคยก้าวล่วงหรือล่วงเกิน และไม่เคยใช้วาทกรรมใดๆ ในการให้ร้ายอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองแม้แต่น้อย

“ดิฉัน​จะขอแก้ไขและพิสูจน์ความจริงใจ ด้วยการเลือกจุดยืนที่จะยืนเคียงข้างประชาชน ยืนอยู่ข้างประชาธิปไตย และยืนหยัดกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยเสนอตัวผ่านการเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย และจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน รับใช้พ่อแม่พี่น้องชาวสมุทรสงครามอย่างสุดกำลัง ดิฉันมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ มีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งได้ จึงขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ดิฉันมีความมุ่งมั่น จริงจัง จริงใจ ที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคมไทย และประเทศชาติอย่างแท้จริง” นางสาวณิชาภา กล่าว

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในนามของพรรคเพื่อไทย ขอเรียนไปยังสมาชิกพรรค สมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ผู้ร่วมอุดมการณ์ และผู้หวังดีต่อพรรคเพื่อไทยทั่วประเทศ ตามที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศตัว ‘ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย’ โดยคณะกรรมการพิจารณาสรรหาตัวผู้สมัครในเบื้องต้นนั้น ได้มีการคัดค้านจากสมาชิกและผู้หวังดีต่อพรรคในพื้นที่ ซึ่งพรรคยินดีรับฟังความเห็นและขอบคุณในความปรารถนาดีของพี่น้องประชาชนอย่างสูง

การประกาศตัว ‘ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.’ ของพรรคเพื่อไทย เป็นกระบวนการเบื้องต้น เพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครไปทำงานเสนอตัวกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อเตรียมการเข้าสู่การสรรหา ของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งกรรมการสรรหา ต้องมีกระบวนการในการรับฟังความคิดเห็น หรือลงคะแนนเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ จากสมาชิกพรรคในเขตพื้นที่ หากสมาชิกในพื้นที่ไม่เห็นชอบ หรือผลการสำรวจความนิยม (โพล) ในพื้นที่ไม่ได้รับความนิยม จะต้องสรรหาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ใหม่ จนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากพื้นที่ แล้วจึงส่งให้กรรมการบริหารพรรคเห็นชอบเป็นขั้นตอนสุดท้าย จึงจะประกาศตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทยยินดีรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และเปิดกว้างสำหรับทุกความเห็น เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน