“อาจารย์อู๋ จุฑาพร” จี้ “ประยุทธ์” ให้ศึกษาปัญหาให้ดีก่อนส่งคนโต้มั่ว เพราะจะล้มเหลวทางเศรษฐกิจซ้ำซ้อน ชี้ เศรษฐกิจไทยเสื่อมถอยเพราะผู้นำคิดได้แค่แจกเงิน แนะ ศึกษาแนวทางต่างประเทศในการฟื้นเศรษฐกิจ
นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. เขตบางรัก และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจได้แนะนำพลเอกประยุทธ์ ว่าโครงการคนละครึ่งไม่ควรดำเนินการแล้วในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ควรจะนำเงินไปแก้ไขปัญหาหนี้และปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยมากกว่าจะนำมาแจกเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของพลเอกประยุทธ์ ตลอด 8 ปี สะท้อนชัดเจนจากเสียงหัวเราะปนความเอือมระอาของประชาชน เป็นตัวตลกในเวทีเดี่ยว 13 ของโน๊ต
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่มาตลอดหลายปี ก่อนวิกฤตการณ์โควิดจนหลังวิกฤตมา 2 ปีแล้วเศรษฐกิจไทยก็ยังไม่ฟื้นจากที่ตกลงมา ขณะที่ประเทศอื่นๆ ฟื้นตัวไปไกลแล้ว ตลอดเวลาที่มีการแจกเงินในรูปแบบต่างๆ ทั้งบัตรคนจน และโครงการคนละครึ่ง ไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นหรือดีขึ้นมาเลย ตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เป็นเครื่องพิสูจน์ความล้มเหลวได้เป็นอย่างดี ยิ่งแจกเงินเศรษฐกิจไทยยิ่งเสื่อมถอย หนี้สาธารณะยิ่งพุ่ง แต่ประเทศไม่ได้พัฒนา เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ไม่ได้แก้ที่โครงสร้างของปัญหา แต่เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ จริงอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจแย่สุดๆ การช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ แต่ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าพลเอกประยุทธ์ จะคิดได้แค่การแจกเงินเท่านั้น ในความเป็นจริง ไม่มีประเทศไหนในโลกพัฒนาได้จากการแจกเงิน รัฐบาลที่ดีจะต้องคิดแนวทางการฟื้นเศรษฐกิจ เช่น การเร่งแก้ไขหนี้ต่างๆ การสร้างงาน การสร้างรายได้ และการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่องค์การการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แนะนำ ซึ่งจะต้องทำในหลายๆด้านพร้อมๆ กัน และเป็นแนวทางเดียวกันกับที่คณะทำงานพรรคเพื่อไทยเสนอแนวคิดแบบนี้มาตลอด
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลเพิ่งจะเริ่มมาคิดแก้หนี้ ทั้งที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจี้ให้เร่งแก้ปัญหาเรื่องหนี้นี้มานานแล้ว ก็เป็นสิ่งดีและควรต้องเร่งทำให้สำเร็จโดยเร็วก่อนที่ดอกเบี้ยจะขึ้นมากกว่านี้ ตามสภาวะการณ์ดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐที่ต้องการจะหยุดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งหากดอกเบี้ยขึ้นสูงแล้ว การแก้ไขหนี้จะยิ่งทำได้ยากขึ้นมาก และอาจจะเป็นเพียงคำพูดหรือเป็นแค่วาทกรรมเท่านั้น ซึ่งหากพลเอกประยุทธ์ได้ฟังคำแนะนำของคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยที่เสนอให้แก้ไขปัญหาหนี้มาตลอดตั้งแต่ดอกเบี้ยยังต่ำมาก ป่านนี้การแก้ไขปัญหาหนี้น่าจะทำไปได้มากแล้ว และเศรษฐกิจไทยก็น่าจะต้องฟื้นกว่านี้แล้ว
การที่จะบริหารเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ พลเอกประยุทธ์จะต้องศึกษาแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ จะมาคิดเองเออเองไม่ได้ และคิดว่าแจกเงินคือความสำเร็จเหมือนการแจกบัตรคนจน 20 กว่าล้านใบ คือความสำเร็จของรัฐบาล นั่นไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง แต่น่าจะเป็นความล้มเหลวมากกว่า สุดท้ายหนี้สาธารณะของประเทศจะพุ่งสูงแต่ประเทศกลับถอยหลัง คนตกงานมากขึ้น และประชาชนจนลง ประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม ลูกหลานไทยต้องเผชิญตราบาปต้องใช้หนี้ไปอีกนานแสนนาน เพียงเพราะมีผู้นำไร้ความสามารถ