‘บ้านเพื่อคนไทย’ เปิดตัว 1 ชั่วโมงแรก ประชาชนแห่เข้าระบบยื่นความจำนงมากถึง 12 ล้านคน ‘คมนาคม’ ย้ำยังเปิดระบบให้ลงทะเบียนไม่มีกำหนด ก่อนจับสลากรับสิทธิ์ภายใน 3 เดือน เริ่มก่อสร้างเฟสแรกทันที กว่า 5 พันยูนิต มั่นใจประชาชนทยอยเข้าอยู่ปี 2569

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการเข้าชมตัวอย่างห้อง และเปิดให้ประชาชนแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ณ บริเวณโถงกลางประตู 1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์  

.

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า จากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-2579)  พบว่า จำนวนครัวเรือนในประเทศไทย 21.32 ล้านครัวเรือน มีคนไทยถึง 27.5% หรือ 5.87 ล้านครัวเรือนที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่สถานการณ์ปัจจุบันบ้านที่มีคุณภาพสูงในทำเลที่ดี มีราคาค่อนข้างแพง และใช้ต้องเงินดาวน์ จนทำให้การมีบ้านเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือ First Jobber  ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ทำโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” สร้างที่อยู่อาศัยทั้งรูปแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมโดยไม่ต้องมีเงินดาวน์ ผ่อนรายเดือนไม่สูง และมีคุณภาพดี เป้าหมายเพื่อทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้มีบ้านของตัวเอง และลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น

.

อย่างไรก็ดี วันนี้ (17 ม.ค.) รัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนที่สนใจโครงการนี้ สามารถศึกษาเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.บ้านเพื่อคนไทย.th หรือ Line : @baanpheukonthai รวมถึงสามารถติดตามข่าวสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของภาครัฐ และของโครงการบ้านเพื่อคนไทย นอกจากนี้ ยังสามารถชมตัวอย่างห้องได้ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันที่ 17 – 31 ม.ค.2568 ในเวลา 10.00 – 21.00 น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ หลังจากนั้นจะปรับวันและเวลาเข้าชม ให้มีความเหมาะสมกับปริมาณผู้เข้าชมในแต่ละวัน ในลำดับต่อไป

.

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ดำเนินการโดย SRTA บริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยจากการสำรวจและวิเคราะห์ปัจจุบัน พบว่ามีพื้นที่ศักยภาพสามารถนำมาใช้ในการดำเนินโครงการ ได้ประมาณ 25 จังหวัด และมีพื้นที่เป้าหมายสามารถพัฒนาเป็นโครงการนำร่องได้ 4 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่กม.11 (วิภาวดี), พื้นที่ธนบุรี, พื้นที่เชียงใหม่ และพื้นที่เชียงราก สามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยทั้งในรูปแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมบนทำเลที่มีศักยภาพ สะดวกต่อการเดินทางโดยระบบสาธารณะ ตอบโจทย์ตามความต้องการของประชาชน  

.

สำหรับโครงการบ้านเพื่อคนไทย มีรูปแบบโครงการที่พักอาศัย ในระยะแรก 2 ประเภท ได้แก่ 1.คอนโดมิเนียม แบ่งเป็น 

.

-ห้องพัก 30 ตารางเมตร (1 ห้องนอน)

-ห้องพัก 40 ตารางเมตร (2 ห้องนอน)

-ห้องพัก 45 ตารางเมตร (2 ห้องนอน) 

-ห้องพัก 51 ตารางเมตร (2 ห้องนอน) 

-.บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาด 50 ตารางเมตร บนที่ดิน 50 ตารางวา

.

ภายในยังห้องพักและบ้าน มาพร้อมโทรทัศน์ โซฟา โต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ ตู้เย็น ผ้าม่าน ชักโครกไฟฟ้า ซิงค์ในห้องน้ำ ฐานเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศ 

.

โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้ซื้อสิทธิ 

.

-เป็นต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย

-เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน

-เป็นผู้ที่มีรายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน

-ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยทุกประเภท 

-ไม่เคยได้สิทธิ ในโครงการบ้านเพื่อคนไทย

.

“วันนี้เราได้เปิดเว็บไซต์ให้ประชาชนได้เข้าระบบลงทะเบียนยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการเป็นวันแรก ซึ่งพบว่าใน 1 ชั่วโมงแรกของการเปิดระบบ มีประชาชนลงทะเบียนมากถึง 12 ล้านคน ทำให้ระบบล่ม และขณะนี้กำลังเร่งแก้ไข แต่อย่างไรก็ดี การลงทะเบียนนี้ยังคงเปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด ดังนั้นประชาชนสามารถทยอยลงทะเบียนได้”

.

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้รัฐบาลเปิดให้ประชาชนยื่นความจำนงเพราะต้องการรู้ดีมานด์ที่ประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัย และต้องการเข้าร่วมโครงการนี้ โดยเป้าหมายในวาระรัฐบาลนี้ ต้องการให้ประชาชนเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 300,000 คน ดังนั้นโครงการบ้านเพื่อคนไทยจึงมีเป้าหมายจะก่อสร้างที่อยู่อาศัยรวม 300,000 ยูนิต ซึ่งระยะแรกนี้จะดำเนินการก่อสร้างประมาณ 5,000 ยูนิต บนที่ดินที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า ประชาชนเดินทางสะดวก 

.

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กล่าวว่า โครงการนำร่องดังกล่าวเกือบ 5,000 ยูนิต ใน 4 แปลง กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยจ.เชียงใหม่จะเป็นบ้านเดี่ยว ส่วนที่เหลือจะเป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้นและ 12 ชั้น ขนาด 30-50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท โดยเฟสแรกจะเริ่มปักเสาเข็มก่อสร้างใน 3 เดือนนี้หลังจากมีการตรวจสอบสิทธิ เริ่มที่บางซื่อและที่กม. 11 ก่อน และคาดว่าประมาณกลางปี 69 ประชาชนที่จองบ้านเดี่ยวที่จ.เชียงใหม่ น่าจะเข้าอยู่ได้ เพราะยูนิตน้อยเพียง 35 หลัง

.

“สิ้นปีนี้สามารถส่งมอบได้บางส่วน และ 4 แปลงนี้จะขายได้ทั้งหมด ซึ่งการรถไฟฯ ยังมีพื้นที่ว่างทั่วประเทศอีกประมาณ 38,000 ไร่ ซึ่งสามารถนำมาดำเนินการโครงการนี้ได้” นายสุรพงษ์ กล่าว

.

#พรรคเพื่อไทย #บ้านเพื่อคนไทย