พท.ถาม กรธ. เจตนาเปลี่ยนแปลงถ้อยคำในร่างรธน.มาตรา93(8)เพื่อช่วยใคร
พท.ถาม กรธ. เจตนาเปลี่ยนแปลงถ้อยคำในร่างรธน.มาตรา93(8)เพื่อช่วยใคร
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามถึงกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้ไขคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ตามที่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2540-2550 ว่า “เคยถูกไล่ออก ให้ออกหรือปลดออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ” กรธ.ได้เปลี่ยนถ้อยคำเสียใหม่ปรากฏอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญของกรธ.มาตรา93(8) ว่า “เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการเพราะ……” คงจำกันได้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษายกฟ้องกรณีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ปลดตนเองออกจากราชการ กรณีมีการใช้เอกสารปลอมสมัครเข้ารับราชการทหาร โดยพิพากษาว่าคำสั่งปลดออกเป็นไปโดยชอบ มีผู้ถามท่านประธานกรธ.ว่าหัวหน้าพรรคการเมืองทีโดนปลดออกจากราชการจะสามารถสมัครรับเลือกตั้งได้หรือไม่ ท่านตอบทันทีว่าสมัครได้จนเป็นที่วิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เพราะคำสั่งกระทรวงกลาโหมก็ระบุชัดเจนว่าให้ปลดออก อันเป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการสมัครเป็นส.ส.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เปลี่ยนถ้อยคำเป็น “เคยถูกคำสั่งให้พ้นจากราชการ…”เป็นถ้อยคำใหม่ไม่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใดๆมาก่อนเป็นนวัตกรรมใหม่ของกรธ. จึงอยากตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่เคยใช้ในรัฐธรรมนูญเดิมๆ มีเจตนาอะไร มีความหมายอย่างไร และเพื่อช่วยใครให้สมัครรับเลือกตั้งได้โดยไม่ถูกโต้แย้งอย่างไรหรือไม่?