นายชวลิต
วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าการที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
เลือกจังหวะเคลื่อนไหวให้ความเห็นทางการเมืองในขณะนี้เพราะเป็นช่วงคดีของตระกูลชินวัตร
กำลังมีการพิจารณาอย่างเข้มข้นนั้น

  นายชวลิต ฯ กล่าวว่า ขอให้ความเห็นต่อการให้สัมภาษณ์
ของนายอภิสิทธิ์ ฯดังกล่าว สัก 4 ประเด็น
ดังนี้

  1.การให้ความเห็นของท่านนายกฯทักษิณ
ชินวัตร ก็เหมือนกับภาคส่วนอื่นๆ ที่ให้ความเห็นด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง และถ้าพิจารณาด้วยความเป็นธรรม
จะเห็นว่าไม่มีประเด็นใดเกี่ยวข้องกับคดีความของตระกูลชินวัตร เลย
ไม่ว่าจะเป็นสาระและห้วงเวลาในการให้ข่าว โดยเฉพาะคดีจำนำข้าวนั้น เข้มข้น ร้อนแรง
ตั้งแต่ ปปช.ดำเนินการกับผู้กำกับ ดูแลด้านนโยบาย คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ต้นแล้วไม่ใช่มาร้อนแรงในช่วงนี้
ซึ่งเป็นช่วงพิจารณาและวิพากษ์วิจารณ์ร่าง รธน.

  2.คนไทยทั่วไปและชาวโลกทราบดีว่า
คดีความของคนในตระกูลชินวัตร
ไม่ได้เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่สถานการณ์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เป็นปกติ
จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบมาสู่กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำหรือไม่
ประเด็นนี้ได้รับการวิพากษ์ วิจารณ์มากอยู่ซึ่งตนเห็นว่า ผู้ที่รักความยุติธรรมผู้ที่อยากเห็นความสงบสุขเกิดขึ้นในบ้านเมืองควรร่วมกันหาทางออกให้สังคมก้าวข้ามหลุมดำแห่งความขัดแย้งไปให้ได้

  3.ดังที่ได้กล่าวในตอนต้นว่าตนเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
จนทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
จนฟากฝั่งที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมกล่าวเป็นวลีติดปากว่า
“สองมาตรฐาน” ซึ่งตนจะไม่ขอลงรายละเอียดให้สะเทือนใจกันว่าสองมาตรฐานอย่างไร
เพราะถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะก้าวข้ามความขัดแย้ง
แล้วร่วมกันหาทางออกเพื่ออนาคตของอนุชนรุ่นต่อไป

  4.ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประชาคมโลก
และประเทศของเราก็อยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยมาตลอด
การจะยืนหยัดในสังคมโลกอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ในโลกประชาธิปไตย
ได้รับการยอมรับมีปฏิสัมพันธ์ไปมาค้าขายอย่างยั่งยืนได้นั้นพรรคการเมืองต่าง ๆ
จะมีบทบาทสำคัญต่อหลักการดังกล่าว ขณะนี้ตนเห็นว่าอยู่ในห้วงเวลาสำคัญที่สังคมไทยควรก้าวข้ามประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ที่อิงระบบอำนาจนิยมได้แล้ว โลกและเพื่อนบ้านของเราไปไกลแล้ว และจะแซงหน้าเรา
ถ้าเราถอยหลังเข้าคลอง