แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เรื่อง การปฏิบัติของรัฐบาล และ คสช. ต่อพระสงฆ์

  ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลจากการใช้อำนาจของ
คสช.และรัฐบาลอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่ คสช.
ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
โดยอาศัยประกาศและคำสั่งของ
คสช.เป็นเครื่องมือในการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของบุคคล หลายคนต้องถูกทหารควบคุมตัวเข้าค่ายโดยอ้างว่าเพื่อปรับทัศนคติ
หลายคนต้องถูกดำเนินคดีเพียงแค่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร
หรือเพื่อตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาล
ทั้งที่กรณีดังกล่าวเป็นสิทธิเสรีภาพขึ้นพื้นฐานของประชาชน


  การละเมิดสิทธิมนุษยชนนับวันจะรุนแรงขึ้น
ไม่เฉพาะแค่เพียงกับประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังก้าวล่วงไปดำเนินการกับพระสงฆ์ ซึ่งเป็นตัวแทนในพระพุทธศาสนา

โดยเฉพาะเหตุการณ์  ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์
2559 ที่พระสงฆ์จำนวนหนึ่งจะเดินทางเข้าไปยังพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อทำกิจกรรมของสงฆ์แต่ถูกทหารเข้าขัดขวาง
นำรถฮัมวี่ ซึ่งใช้ในราชการทหารมาขวางกั้นปิดไม่ให้พระสงฆ์ได้เข้าในเขตพื้นที่ทั้งที่เป็นพื้นที่ของสงฆ์
จนเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันระหว่างทหารกับพระสงฆ์ และเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมาที่มีพระสงฆ์และประชาชน
ในนามเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ ได้นัดประชุมเพื่อแถลงท่าทีของเครือข่ายต่อความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดิน
ที่เห็นว่ามติของมหาเถรสมาคม (มส.) ทำผิดขั้นตอนการเสนอการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช โดยสถานที่ประชุมก็เป็นศูนย์ประชุมของวัดไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใด
แต่กลับปรากฏว่าทั้งทหารและตำรวจได้เข้าขัดขวางการดำเนินการดังกล่าวจนการประชุมไม่อาจดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์
ทั้งที่ประเด็นความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินยังมีความเคลือบแคลงสงสัยถึงอำนาจหน้าที่และความถูกต้องในข้อกฎหมาย
ซึ่งพระสงฆ์ และประชาชนสมควรที่จะได้รับสิทธิในการแสดงออกซึ่งข้อท้วงติงได้

  พรรคเพื่อไทยเห็นว่า
การนำปฏิบัติการทางทหารมาใช้กับพระสงฆ์ดังกล่าวนอกจากเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว
ยังถือเป็นการไม่ให้ความเคารพในกิจกรรมของพระสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนาที่ต้องการแสดงออกในเรื่องที่อยู่ในกิจของสงฆ์
ซึ่งไม่ได้เคลื่อนไหวในทางการเมืองแต่อย่างใด ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

  เนื่องจากศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติของคนไทย
และสถาบันทางศาสนาเป็นที่เคารพรักและศรัทธาของประชาชนไทยทุกส่วน
ซึ่งนอกจากจะต้องให้การอุปถัมภ์และคุ้มครองแล้ว รัฐบาลและ คสช. ไม่ควรเข้าไปแทรกแซงการดำเนินกิจกรรมใดๆของพระสงฆ์ตราบใดที่การแสดงออกดังกล่าวไม่ได้เป็นการผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง
สิ่งใดที่รัฐบาลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ก็ควรรีบดำเนินการ
เช่นการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ไม่ควรปล่อยให้เกิดความขัดแย้งในสังคมต่อไป

  พรรคเพื่อไทยตระหนักว่า
ในสังคมเผด็จการดังที่เป็นอยู่ในประเทศไทยขณะนี้นั้น แม้ผู้มีอำนาจจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จ
แต่การใช้อำนาจก็ควรคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนด้วย การปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิเสรีภาพของฆราวาส
ซึ่งได้เกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน และปัจจุบันได้มีการใช้อำนาจดังกล่าวก้าวล่วงไปถึงพระสงฆ์อันเป็นตัวแทนความเคารพนับถือและความศรัทธาของพี่น้องประชาชน
นับได้ว่าประเทศนี้กำลังตกอยู่ในความเสื่อมถอยอย่างถึงที่สุด

พรรคเพื่อไทย
9 มีนาคม 2559 


Pheu Thai Statement NCPO and Government’s Treatment to the Monk

NCPO and the government has continuously violated Thai people’s human rights since NCPO seized power from the elected government using NCPO’s order as legal tool to control people’s freedom of expression. While many have been summoned or detained for “attitude adjustment”, others have been charged with criminal cases for just expressing disagreement to the coup d’état in a peaceful and symbolic manner. Some were charged with criminal cases calling upon NCPO to investigate the government’s corruption allegation when these actions are genuine basic right of Thai people.   

   The situation of human rights are gradually worse every day. Not only Thai people’s rights are violated but also the basic rights of Buddhist monks’, the representatives of Buddhism. On February 17th, 2016, numbers of monks travelled to Buddhamonthon, a large park in the east of Nakorn Pathom devoted to Buddhism for Buddhist practice but they were obstructed by the military officers not to enter the premise. This event was led to a confrontation between the monks and the military officers. Furthermore on March 7th, 2016, a group of people including monks acting on behalf of “Buddhist Organization Network” held a press conference to announce their standpoints towards the Ombudsman’s comment regarding Sangha Supreme Council of Thailand’s decision on establishing process of the supreme patriarch. Policemen and military officers raided the temple’s conference hall to stop the press conference. Since the Ombudsman’s comment was deemed illegitimate, monks and Thai people should be entitled to express their doubts and complaints.

   Pheu Thai Party believes that the military treatment towards the monk is not only a serious violation of human rights but also a serious disrespect in religious practice because these practices are ecclesiastical mission not political ones.
 
   Buddhism is Thailand’s national religion. Our endeared and respected religious institution must be supported and protected. NCPO and government should not intervene in any ecclesiastical mission as long as such practice or expression is legal. The government should promptly support any legal and legitimate practice like the establishment process of the supreme patriarch which its prolonging could cause further social conflict.

   Pheu Thai Party is aware that Thailand’s current situation is under the ruling of an absolute power. However, a use of power must consider basic human rights. The violation of human rights has already happened to Thai people. Unfortunately Thai monks, who are respected representatives of Buddhism by Thai people now have been violated their freedom of religion. Thailand today has completely entered a dark era.  

Pheu Thai Party
March 9th, 2016