จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอให้ตรวจสอบ และทบทวนวิธีการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล
จดหมายเปิดผนึก
ถึง นายกรัฐมนตรี
และประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)
เรื่อง
ขอให้ตรวจสอบ และทบทวนวิธีการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว
(นบข.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้อนุมัติให้มีการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลซึ่งเก็บรักษาไว้ในโกดังของเอกชนในจังหวัดต่างๆ
โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล
เป็นผู้รับผิดชอบในการระบายข้าว
แต่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่านโยบายการจัดเกรดข้าวสารของ นบข.
และการดำเนินการระบายข้าวของคณะทำงานดังกล่าว ส่อพฤติกรรมถึงความไม่โปร่งใส
และส่อว่าจะมีการทุจริตเป็นขบวนการ ตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงผู้ปฏิบัติ
อันนำมาซึ่งความเสียหายแก่รัฐจำนวนมาก
ซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ปรากฏต่อสื่อมวลชนจากกรณีที่เจ้าของโกดังและคลังสินค้าต่างๆ
ที่รับเก็บรักษาข้าวได้ออกมาเรียกร้องคัดค้านให้มีการทบทวนการประมูลข้าว
แต่ข้อเรียกร้องดังกล่าวกลับถูกเพิกเฉยจากรัฐบาลและ คสช.
ขณะเดียวกันมีการให้ทหารเข้าไปควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของสื่อมวลชนในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วย
พรรคเพื่อไทยเห็นว่า
การกำหนดนโยบายการระบายข้าวและการดำเนินการระบายข้าวของ นบข.
และคณะทำงานดำเนินการระบายข้าว
เปิดช่องให้มีการทุจริตและแสวงหาผลประโยชน์ทั้งโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนผู้ประมูลข้าว
ดังนี้
1.
การจัดให้ข้าวสารในสต็อกเป็นข้าวเกรดซี
โดยไม่มีการตรวจสอบคุณภาพข้าวอย่างถูกต้องและทั่วถึง ทำให้ข้าวสารดังกล่าวไม่สามารถประมูลขายเพื่อการบริโภคของคนได้
แต่ให้ใช้ไปเพื่อผลิตเป็นอาหารสัตว์หรือพลังงาน ทั้งที่ข้อเท็จจริง โกดังต่างๆ
มีการจ้างบริษัทรักษาและดูแลสภาพข้าวสารอย่างดี และได้รับการยืนยัน
รวมถึงการนำสภาพข้าวสารมาเปิดเผยต่อสาธารณะของเจ้าของโกดังว่า ข้าวสารดังกล่าวยังเป็นข้าวที่มีคุณภาพและสามารถใช้เพื่อการบริโภคของคนได้
2.
การจัดระดับข้าวสารให้อยู่ในระดับเกรดซี เป็นการทำให้ข้าวสารมีคุณภาพดี
กลายเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ เพื่อให้เกิดการประมูลขายในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง
3.
มีข้อเท็จจริงว่า ได้มีผู้ขอเสนอซื้อข้าวสารในโกดังหลายแห่งในราคาที่สูง
แต่คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวไม่ขาย
แต่กลับขายให้อีกบริษัทหนึ่งซึ่งประมูลได้ในเวลาต่อมาในราคาที่ต่ำกว่าการเสนอซื้อครั้งแรกมาก
ดังเช่น มีการเสนอซื้อข้าวหอมมะลิ 100 % ชั้น 2 จำนวนกว่า 14,000 ตัน
ในราคากิโลกรัมละ 11.25 บาท แต่คณะทำงานไม่ขาย
กลับขายให้อีกบริษัทหนึ่งในราคากิโลกรัมละ 6.10 บาท เป็นต้น
ซึ่งการประมูลขายดังกล่าว ผู้เข้าประมูลหลายรายและเจ้าของโกดังได้ทำหนังสือคัดค้าน
และขอให้ทบทวนการขายแล้ว แต่คณะทำงานก็มิได้ยกเลิกหรือทบทวนการดำเนินการแต่อย่างใด
ส่งผลให้รัฐต้องได้รับความเสียหายจากการขายข้าวคุณภาพดีเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ
เท่าที่ปรากฏขณะนี้จำนวนกว่าหลายร้อยล้านบาทแล้ว
4.
มีข้อเท็จจริงว่า ผู้ประมูลข้าวบางรายไม่มีศักยภาพทางการเงินเพียงพอ
ที่จะสามารถประมูลข้าวจำนวนมากๆ ได้
และไม่พบว่ามีข้าวที่ได้จากการประมูลอยู่ในความครอบครองของตนเอง แต่อย่างใด
พฤติการณ์ดังกล่าวจึงน่าเชื่อว่าจะมีบุคคลบางกลุ่มตั้งนอมินี
เพื่อให้มีการประมูลข้าวสาร
เพื่อผลประโยชน์ในการที่จะนำข้าวดังกล่าวเข้าสู่ตลาดข้าวเพื่อบริโภคของคนต่อไป
5.
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ข้าวสารที่มีการระบาย เป็นข้าวที่มีคุณภาพซึ่งคนสามารถใช้
บริโภคได้ แต่กลับจัดเกรดและประมูลข้าวในราคาข้าวเสื่อมคุณภาพ
ซึ่งซื้อได้ในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง จึงอาจเป็นไปได้ว่า
จะมีการนำข้าวดังกล่าวเพื่อกลับมาขายให้เป็นข้าวบริโภคของคน
ซึ่งจะทำให้เกิดช่องทางทุจริตในส่วนต่างราคาข้าวจำนวนมาก
พรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้คณะทำงานของพรรคลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว
และได้พบปะพูดคุยกับเจ้าของโกดังหลายแห่ง พบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง
หากไม่มีการระงับยับยั้งหรือยกเลิกการประมูลที่ดำเนินการไปแล้ว
จะทำให้รัฐได้รับความเสียหาย สูญเสียรายได้จากการระบายข้าวจำนวนมาก ดังนั้น
เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
พรรคขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในฐานะเป็นประธาน นบข.
และหัวหน้ารัฐบาลได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล ในปี 2560
เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน
และ
การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์
รวมถึงทบทวนนโยบายการระบายข้าวของ นบข. ด้วย
หากพบว่ามีการระบายข้าวจากข้าวคุณภาพดีที่คนบริโภคได้
แต่ไปขายเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์หรือพลังงาน
ก็ขอให้มีการยกเลิกการประมูลขายดังกล่าว
และตรวจสอบคุณภาพข้าวดังกล่าวใหม่ด้วยวิธีการที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับ
รวมทั้งให้มีการตรวจสอบหาผู้กระทำผิดในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดกระทำการทุจริตและแสวงหาประโยชน์จากโครงการดังกล่าว
ก็ขอให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง เหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
ประกาศไว้
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการ
พรรคเพื่อไทย
11
สิงหาคม 2560