“สมพงษ์” ขอ “ประยุทธ์” เห็นใจชาวอีสาน หากไม่ลงพื้นที่น้ำท่วม ต้องเร่งหาทางช่วยเหลือ
(14 ก.ย. 62) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมทางภาคอีสานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ความจริงตนไม่อยากกล่าวถึงท่าน เพราะตนคิดว่าเขาชอบทะเล เพราะครั้งที่เรามีการอภิปรายสอบถามเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วน เขาก็มีภารกิจไปแถวชลบุรี จันทบุรี แถวๆทะเล ตนคิดว่า เขาก็น่าจะอยากดูน้ำท่วม แต่ไปดูที่ทะเล มองดูแล้วทำให้รู้สึกว่า ความสนใจที่มีให้กับประชาชนที่เดือดร้อนทางภาคอีสานคงจะน้อยไปหน่อย หากนายกฯไม่ลงพื้นที่ก็ต้องหาหนทางที่จะช่วยเหลือ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งตนขอวิงวอนให้นายกฯให้ความสำคัญ และความสนใจกับพี่น้องภาคอีสานบ้าง เพราะอย่างไรน้ำก็ไม่ท่วมทะเลอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านก็โดนฟากรัฐบาลโจมตีว่ามุ่งแต่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสมพงษ์ กล่าวว่า การที่บอกว่าฝ่ายค้านพูดแต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องมองภาพลึกลงไปว่าข้อเท็จจริง เศรษฐกิจที่มีปัญหาตลอดปีที่ผ่านมา ที่เราค้าขายกับใครไม่ได้ก็เพราะเกี่ยวกับการรัฐประหาร ตอนนี้เราเป็นประชาธิปไตยที่คิดว่าเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะต้องทำไปพร้อมกัน จะทำเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้ ซึ่งวันนี้เกือบทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า การเสนอเลื่อนญัตติการตั้ง กมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วมติออกมาเห็นด้วยถล่มทลายสะท้อนอะไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า เขากลัวตกรถไฟ หากฝ่ายรัฐบาลเขาไม่เอาด้วย ประชาชนจะต้องเข้าใจว่ารัฐบาลจะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น เมื่อฝ่ายค้านขอให้มีการแก้ไข ฝ่ายรัฐบาลจึงยกมือเต็มสภา
เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 18 ก.ย. 62 นายสมพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้กำหนดตัวบุคคลไว้คร่าวๆแล้ว โดยในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ก่อนที่จะมีการอภิปรายจะมีการหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อกำหนดตัวบุคคลที่ชัดเจน เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยได้กำหนดตัวผู้อภิปรายไว้ไม่น้อยกว่า 10 คน ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจจะต้องลดหลั่นกันไป รวมแล้วไม่เกิน 25 คน ส่วนตนเองคาดว่าจะใช้เวลาอภิปรายไม่เกิน 15 นาที ทั้งนี้กรอบระยะเวลาการอภิปรายที่กำหนดไว้ไม่ให้เกินเที่ยงคืนของวันที่ 18 ก.ย. นั้น ตนมองว่ารัฐบาลฉลาดพอสมควรที่จะให้จบภายในวันเดียว สำหรับสัดส่วนการแบ่งเวลาการอภิปรายระหว่างประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนและการแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น คงจะแบ่งเวลาในสัดส่วนที่เท่าๆกัน