“7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม รับฟังปัญหาเกษตรกร-สมาคมการค้า-สภาอุตสาหกรรม

วันนี้ (14 ก.ย. 62) เวลา 15.00 น. ที่ปรางค์กู่ (กู่มหาธาตุ) ตำบลเขวา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมเวทีเสวนารับฟังปัญหาเกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม โดยเวทีดังกล่าวมีตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนต่างสะท้อนปัญหาไปยังฝ่ายค้าน ต้องการให้ช่วยผลักดันสินค้าของวิสาหกิจชุมชนเพื่อสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจชุมชน รวมทั้งถนนขาดหลายสายจากพายุโพดุลเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยชลประทานบอกกับท้องถิ่นว่า หากให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขอดินไปถมถนนที่ขาดต้องทำหนังสือไปถึงกรมธนารักษ์ จึงเห็นว่าการที่บอกว่าทุกหน่วยงานต้องบูรณาการทุกภาคส่วน หากทำจริงเชื่อว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐได้ ขณะเดียวกันยังเสนอว่าหากรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ก็ควรยุบสภา และที่ฝ่ายราชการบอกห้ามทำนาปรังเพราะน้ำไม่มี แต่ไม่มีการเก็บกักน้ำให้เกษตรกรได้ใช้ทำนาปรัง จึงอยากฝากฝ่ายค้านไปช่วยบอกรัฐบาลว่าจังหวัดมหาสารคาม ต้องการทำนาปรัง หากไม่ทำนาปรังก็จะไม่มีอะไรกิน

ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่หอการค้าจังหวัดมหาสารคาม นายสมพงษ์ พร้อมตัวแทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้พบปะหารือกับหอการค้า สมาคมการค้า สภาอุตสาหกรรมหอการค้า เพื่อหารือถึงการทำผังเมือง การทำระบบโลจิสติกส์ รวมทั้งการพัฒนาบริหารจัดการน้ำ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จีดีพีของจังหวัดมหาสารคาม คือการศึกษา และยังต้องพัฒนาประชากรให้มีคุณภาพ และดูดเม็ดเงินได้คือการศึกษา แต่ขณะนี้การศึกษาลงเร็วมากเพราะอีกไม่นานมหาวิทยาลัยมหาสารคามจะไปไม่รอดจากจำนวนนักศึกษาลดลงเหมือนมหาวิทยาลัยราชภัฏ ในส่วนจังหวัดมหาสารคาม ยังป่วยเรื่องการลงทุนกับการศึกษา ในส่วนของการศึกษาถ้าเป็นวิกฤตก็ต้องสู้กัน ว่าจะให้เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางหรือไม่ ส่วนการเกษตรก็หวังพึ่งจังหวัดมหาสารคามยาก เมื่อเห็นทิศทางการพัฒนาประเทศ ส่วนตัวเห็นว่าถ้าให้ประชาชนมีกำลังซื้อ คิดว่า 1 ตำบล 1 โรงงาน ถ้าไม่ได้ตำบลก็เป็น 1 อำเภอก่อน

“เราต้องแก้กติกาประเทศก่อน เพราะโครงสร้างแบบนี้จะส่งผลต่อไป ถ้ากติกาบล็อกไว้แบบนี้ ที่จะต้องพึ่งราชการโดยพึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแทน”
นายสุทินกล่าว

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะนำปัญหาทั้งหมดไปผลักดันในสภาฯ โดยฝ่ายค้านมา 246 เสียง ถ้า ส.ส. และรัฐมนตรีเข้าห้องน้ำก็อาจเกิดเหตุการณ์สำคัญได้ ขณะเดียวกัน 5 ปี ไม่สามารถติดต่อการค้าต่างประเทศได้ เพราะรัฐบาลมาจากการรัฐประหาร ทำให้ประเทศไม่น่าเชื่อถือ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ เศรษฐกิจก็จะซบเซาต่อไป