“7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ลุยปัตตานี เปิดเวทีเสวนานับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่
(28 ก.ย. 62) ที่ลานวัฒนธรรม หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจัดกิจกรรม “ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน สัญจรภาคใต้” โดยมีจัดการเสวนาในหัวข้อ “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ซึ่งมีแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าร่วม อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และตัวแทนพรรคเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงนักวิชาการเข้าร่วมเสวนา โดยมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายสมพงษ์ กล่าวว่า พวกเรา 7 พรรคอยากเสาะหาข้อมูล ปัญหาของประชาชนเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง ตั้งแต่มีการเลือกตั้ง มี ส.ส. แต่บทบัญญัติรัฐธรรมนูญไม่เอื้อให้เราทำงานเพื่อประชาชนได้เลย นี่คือความผิดเพี้ยนของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมา เรื่องรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องหาคนออกมาพูด มาบอกกล่าว และหาแนวทางในการแก้ไข อย่างพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่แสดงเจตจำนงในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เราเองเสียอีกที่มีความรู้สึกช้า ไม่สามารถอธิบายปัญหาของรัฐธรรมนูญได้แบบที่ผู้ใหญ่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะขณะนั้นมีทั้งกฎอัยการศึกและกฎต่างๆทำให้เราไม่สามารถทำอะไรได้ และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้หาเสียงอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ได้คะแนนเสียงมาเพียง 15 ล้านกว่าเท่านั้น หลังจากนี้อยากฝากพวกท่านในฐานะแม่บทในการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญผลักดันให้รัฐบาลมีแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปกติประชาชนจะเมินเฉยต่อการบัญญัติกฎหมาย ปล่อยให้อยู่ในอุ้งมือของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการรัฐประหารที่ผ่านมาเรามีกฎหมายออกมากว่า 400 ฉบับ และแทนที่กฎหมายจะออกมาเพื่อคุ้มครองประชาชน แต่กลับเป็นการออกมาเพื่อปกป้องคุ้มครองผู้มีอำนาจ ให้ประโยชน์ต่อคนกลุ่มนั้น ตามประวัติศาสตร์สังคมใดสามารถบังคับให้คนทำตามได้ทุกเมื่อ ทุกโอกาส สังคมนั้นคือการกดขี่ การจะสร้างสันติสุขสังคมต้องมีความเข้าใจ ต้องมีพลวัตเราจะไม่ใช้เลือดของนักรบแต่เราจะใช้หยดหมึกของนักปราชญ์มาสร้างรัฐธรรมนูญที่สร้างสันติสุข
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ขอคารวะชาวปัตตานีที่ลงประชามติไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้สูงที่สุดในประเทศไทย รวมถึงชาวยะลาและนราธิวาสที่ไม่รับรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน วันนี้ปรากฏชัดว่าวิสัยทัศน์ของคน 3 จังหวัดกว้างไกล เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือว่ามีปัญหา เรารู้ว่าเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหนและพยายามช่วยกันแก้ ส่วนตัวมองว่า ทั้งรัฐธรรมนูญ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีปัญหาพอๆกัน แต่ไม่รู้จะแก้รัฐธรรมนูญ หรือไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปก่อนดี แต่ส่วนตัวอยากเรียกร้องว่า ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก เพราะเป็นคนแรกที่สร้างปัญหา ถ้าท่านยังดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป โอกาสการแก้ปัญหาของประเทศจะมืดมน โอกาสการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะลำบาก เรา 3 จังหวัดยากจนจนเคยชินแล้ว ขออย่าให้คนในประเทศที่เหลือยากจนจนต้องกอดคอกันตาย ปัญหาของประเทศไม่ใช่ปัญหาของประชาชนไม่รักประเทศ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่ปัญหาของประเทศเราอยู่ที่ผู้นำและองคาพยพที่ค้ำจุนรัฐบาลนี้ ส่วนตัวเห็นว่าประชาธิปไตยของประเทศจะเบ่งบานขึ้น หาก พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละลาออก เมื่อท่านลาออกแล้วเชื่อว่าองค์กรอิสระต่างๆจะทำงานได้อิสระขึ้น กระบวนการยุติธรรมจะไม่ถูกแทรกแซง จะทำงานได้อิสระมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก ส.ว. จะได้เลิกทำหน้าที่ทดแทนบุญคุณที่เลือกเขามา เขาจะได้ใช้สติปัญญาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แก้ไขกฎหมายให้ประชาชนได้ประโยชน์ เชื่อว่า ส.ว. มีสมองสติปัญญา แต่บุญคุณค้ำหัวอยู่ ดังนั้นมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรลาออก