“สุณิสา” ชี้ สหรัฐฯตัด GSP ไทย ไม่ใช่เรื่องการแบน 3 สารพิษ อัด “ประยุทธ์” อย่าทำคนเข้าใจผิด แนะใช้สติเจรจา หาทางออกให้ประเทศ

(27 ต.ค. 62) ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรทำความเข้าใจกับสังคมไทยให้ทั่วถึงว่าการแบน 3 สารพิษ ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้สหรัฐฯ ตัด GSP ของสินค้าไทย เพราะความจริงแล้วรัฐบาลสหรัฐฯได้ทบทวนการตัด GSP ของไทย และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ มาเป็นปีแล้ว เพราะมีความเชื่อว่า จีนหันมาผลิตสินค้าในประเทศอาเซียนที่ได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีหรือ GSP จากสหรัฐฯ แล้วส่งสินค้ากลับไปขายที่สหรัฐฯ โดยใช้ประเทศอาเซียนเป็นทางผ่าน ทั้งๆที่ จีนและสหรัฐฯทำสงครามการค้ากันอยู่ และนี่คือประเด็นหลักในการตัด GSP ไม่ใช่เรื่องการแบน 3 สารพิษอย่างที่บางคนเข้าใจ ทั้งนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รู้ตัวล่วงหน้านานแล้วว่าจะถูกตัด GSP เพราะสหรัฐฯไม่ได้ตัด GSP เฉพาะของไทยเพียงชาติเดียว แต่เขาไล่ตัดมาหลายประเทศแล้ว แม้แต่อินเดียที่เคยได้โควต้า GSP มากที่สุดจากสหรัฐฯ ก็โดนตัดโควต้า GSP ทิ้งทั้งหมด จะเห็นว่าอินเดียเสียประโยชน์หนักกว่าไทยเสียอีก และการถูกตัด GSP ไม่ได้แปลว่าห้ามนำเข้าสินค้าเหล่านั้นเข้าสหรัฐฯ เพียงแต่จะทำให้ต้นทุนสินค้าบางรายการสูงขึ้น จนแข่งขันได้ยาก ซึ่งในภาพรวมมูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2561 ก็ยังได้เปรียบดุลการค้าเหนือสหรัฐฯอยู่ ถึง 378,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสินค้ามูลค่า 40,000 ล้านบาท ที่จะถูกตัด GSP ถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกทั้งหมด และยังเป็นปริมาณที่อยู่ในวิสัยที่รัฐบาลไทยจะใช้เวทีเจรจาเพื่อแก้ปัญหาได้ โดยไม่ต้องกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยกเว้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่มีความสามารถหรือใช้เครื่องมือทางนโยบายไม่เป็น 

ทั้งนี้ บุคคลที่สมควรถูกตำหนิมากที่สุด ในกรณีการตัด GSP ครั้งนี้ คือ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการคุ้มครองสิทธิผู้ใช้แรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลได้ตามที่องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ร้องทุกข์ไปยังสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐฯใช้ประเด็นนี้เป็นข้ออ้างตัด GSP สินค้าไทย ทำให้ประเทศไทยต้องเสียประโยชน์ทางการค้า และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่เคยบอกความจริงเรื่องนี้กับคนไทย จึงทำให้สังคมตื่นตระหนกและโยงเรื่องนี้กับเรื่องการแบน 3 สารพิษ เพราะเป็นข่าวที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน 

ซึ่งอันที่จริง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเตรียมตัวรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯที่ต้องเปลี่ยนไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะข้อกำหนดเรื่อง GSP เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคสงครามเย็น เพื่อสร้างพันธมิตรทางการเมืองของโลกตะวันตกเพื่อต่อสู้กับค่ายคอมมิวนิสต์ ดังนั้น จึงมีการหยิบยื่นความช่วยเหลือต่างๆ ให้ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อหาพวก แต่วันนี้สถานการณ์การเมืองโลกเปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้น สิทธิพิเศษต่างๆในโลกยุคสงครามเย็นย่อมเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้สติและใช้เวทีเจรจาเป็นหลักในการหาทางออกในเรื่องนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ อย่าใช้วิธีปลุกกระแสคลั่งชาติ แต่ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนจะได้ไม่ตื่นตระหนก เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นลุกลามไปส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ ระหว่างไทยและสหรัฐฯ ทั้งนี้ การแก้ปัญหาบนโต๊ะเจรจา ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยดูขี้ขลาด แต่เป็นการแก้ปัญหาอย่างมีสติแบบคนที่เจริญแล้ว