“ชวลิต” หวังทุกฝ่ายถอยคนละหลายก้าว ส่งสัญญาณแก้รัฐธรรมนูญ สร้างความเชื่อมั่นประเทศ

(19 พ.ย. 62) นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริง เห็นสัจธรรมร่วมกันว่า การมีกติกาบ้านเมือง คือ รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และออกแบบมาเพื่อให้ระบบการเมืองไม่มีเสถียรภาพนั้น ในมุมหนึ่งอาจเป็นประโยชน์ในทางการเมืองกับภาคการเมืองกลุ่มหนึ่ง แต่ในภาพรวมของประเทศกลับสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล คือ “ประเทศขาดความเชื่อมั่น” ส่งผลให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจถดถอยลงอย่างน่าใจหายดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และไม่มีทางแก้ไขได้ หากไม่ร่วมมือกันทุกภาคส่วนสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา

              

อย่าไปสงสัยว่า กว่า 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลใช้งบประมาณมากมายมหาศาล แต่ทำไมเศรษฐกิจกลับฝืดเคือง ยิ่งใช้เงินมาก คนจนยิ่งเพิ่มขึ้นๆ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะประเทศของเราไม่ได้รับความเชื่อมั่น มีแต่การลงทุนภาครัฐเป็นหลัก ประเทศจึงเหมือนกับคนพิการ เดินขาเดียว ไปไม่รอด ไม่มีทางทันเพื่อน และจะถูกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้แก้ที่หัวใจของปัญหา คือ การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ให้เป็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ

             

ขณะนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ภาคส่วนต่างๆ เริ่มพูดคุยกันมากขึ้นเกี่ยวกับญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรอการพิจารณาอยู่ในสภาฯ เห็นมีการชิมลางปล่อยชื่อ กมธ. ออกมาบ้างแล้ว มีการให้ความเห็นหลากหลายมุมออกมามากขึ้นๆ สะท้อนว่าการแก้รัฐธรรมนูญอยู่ในกระแสของสังคมระดับหนึ่งแล้ว

              

“ในฐานะที่ผมเป็น ส.ส. เขต ได้ลงพื้นที่ทั้งในเขตตัวเอง และไปในต่างจังหวัดหลายจังหวัด พบว่าปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่จมลึกลงไปเรื่อยๆ จนยากจะเยียวยา หากทุกภาคส่วนไม่ร่วมมือกันฟื้นสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา”

             

หากรัฐบาล และ ส.ว. ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีส่วนสำคัญว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จหรือไม่ เห็นความเดือดร้อนของประชาชนในปัญหาเศรษฐกิจที่ยากจะเยียวยา แล้วร่วมมือกันกับภาคส่วนต่างๆ ส่งสัญญาณที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน ผมมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นจะฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานทุกด้านที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้ามีการปรับพื้นฐานทางด้านการเมืองให้มีเสถียรภาพ ประเทศไทยก็ไม่เป็นสองรองใครในภูมิภาคนี้

             

“ผมหวังว่า เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน ประชาชนเดือดร้อนในปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องอย่างยิ่งดังกล่าวข้างต้น ความสามัคคีที่ทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นประเทศจะเกิดขึ้นในการพิจารณาญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาฯ โดยเร็วที่สุด”