“อนุสรณ์” อัด พปชร. ไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียง เตือน อย่าปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ ประชาชนรู้ คว่ำตั้ง กมธ. ม.44 ใครได้ประโยชน์
(7 ธ.ค. 62) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุรัฐบาลไม่ได้จ้องดึงเสียง ส.ส. ฝ่ายค้าน เพื่อให้มาสนับสนุนเสียงโหวต ไม่มีการเสนอผลประโยชน์เข้าแลก ว่า ใครทำอะไร ใครได้ประโยชน์ จากการคว่ำการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 ประชาชนรับรู้และเข้าใจได้ไม่ยาก ยิ่งออกมาปฏิเสธ ยิ่งเข้าตัว อย่าเกี่ยวแฝกมุงป่า อย่าปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ การปฏิเสธแบบไร้สิ่งยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าเลวร้ายแล้ว แต่การจุ้นจ้านโยนบาปให้พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ไปพูดถึงกิจการภายในของพรรคการเมืองอื่น เป็นเรื่องที่เลวร้ายและเสียมารยาทมาก งูเห่าในพรรคการเมือง เป็นปฏิบัติการ ที่ขาดวินัย ไร้จิตสำนึก ไม่ใช่เรื่องที่คนเสนอให้กับคนรับ จะมุบมิบกันทำแบบไม่เกรงใจประชาชน
“พรรคเพื่อไทย มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี ส.ส. ของพรรคไม่ปฏิบัติตามมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งจะต้องมีคำตอบให้กับประชาชน พรรคพลังประชารัฐ อย่าสร้างความสับสน และไร้มารยาทในการแทรกแซงการทำงานของพรรคการเมืองอื่น”
นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณี มติคณะกรรมการค่าจ้าง เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-6 บาททั่วประเทศ ให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 ว่า พรรคพลังประชารัฐรู้สึกอย่างไร ที่นโยบายหาเสียงเป็นสัญญาประชาคมกับประชาชน ไม่สามารถทำได้ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ หลอกลวง เพื่อหวังผลคะแนนหรือไม่ ตอนหาเสียงบอกว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท เท่ากันทั่วประเทศ พอมาเป็นรัฐบาลปรับจริงแค่ 5-6 บาท แล้วยังสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า ต้องยกระดับทักษะฝีมือแรงงานก่อน การกระทำในลักษณะนี้เข้าข่ายการเสนอให้ หรือสัญญาให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์เพื่อจูงใจให้ลงคะแนน ให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นนโยบายของพรรคการเมือง โดยการหาเสียงเลือกตั้งจะต้องไม่ขัดหรือแย้งกับแนวทางที่เป็นนโยบายของพรรคการเมือง หาเสียงอย่างตอนทำกลับไปทำอีกอย่าง เข้าข่ายโฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวงเพื่อให้ได้คะแนนหรือไม่ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ ขัดต่อคุณธรรมจริยธรรมของพรรคการเมือง เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่แย่และไม่ถูกต้องให้กับการออกนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองหรือไม่ ประชาชนสงสัยมาก นอกจากนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จะไม่ตรงปก ทำไม่ได้แล้ว นโยบายการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ก็ยังทำไม่ได้ แล้วแก้เกี้ยวว่าเป็นเพียงการยกตัวอย่างตอนหาเสียงเท่านั้น นโยบายมารดาประชารัฐ ช่วยเหลืออะไรใครไปแล้วบ้าง ได้รับเงินเท่าไหร่ โครงการเริ่มวันไหน มีใครได้รับเงินจากโครงการนี้บ้างหรือไม่
“อย่าให้สังคมตั้งคำถามว่า ถ้าเป็นพรรคการเมืองอื่นหาเสียงแล้วไม่ทำ จะเข้าข่ายตระบัดสัตย์ ขัดต่อคุณธรรมจริยธรรมของพรรคการเมืองหรือไม่ ทำไมพอเป็นพรรคพลังประชารัฐทำแล้วไม่โดน พรรคเพื่อไทยจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ และจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อเป็นการตรวจสอบการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างแน่นอน”