โฆษกพรรคเพื่อไทย ชี้ วิกฤติภาวะผู้นำ ส่ออาการหนักกว่า วิกฤติโควิด-19 แนะรัฐบาล พูดความจริงกับประชาชน-ลำดับความสำคัญข้อมูลข่าวสาร
16 มีนาคม 2563 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้จะเข้าสู่ระยะอะไรก็แล้วแต่ ก็ยังไม่กระทบเท่ากับวิกฤติภาวะผู้นำ เพราะถ้าผู้นำสามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ ระยะใดก็ไม่มีปัญหา แต่วันนี้ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่น เพราะอะไรที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดประชาชนจะทำตรงกันข้าม เช่น บอกอย่ากักตุนอาหาร อย่าตื่นตระหนก ประชาชนก็แห่กันไปซื้อไปกักตุน
พรรคเพื่อไทย ขอเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งยกระดับ 5 เรื่อง คือ 1. เร่งสร้างภาวะผู้นำ 2. รัฐบาลต้องจัดลำดับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน จัดระเบียบข้อมูลข่าวสารให้ถูกต้อง อย่าทำให้ประชาชนสับสน 3. รัฐต้องสร้างการทำงานอย่างเป็นระบบ และบูรณาการการทำงานอย่างเป็นเอกภาพ 4. ถึงเวลาที่รัฐต้องยอมรับความจริงกับประชาชน และสื่อสารสถานการณ์ที่แท้จริงกับประชาชน สะท้อนข้อมูลอย่างเป็นปัจจุบัน และ 5. รัฐต้องไม่แสวงหาประโยชน์ หรือทำกินบนความเป็นความตายของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ รัฐต้องจัดการกับการทุจริตอย่างจริงจัง และพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ
สำหรับกรณีการย้ายอธิบดีกรมการค้าภายใน อันเนื่องมาจากปัญหาหน้ากากอนามัยนั้น พรรคเพื่อไทยไม่อยากให้รัฐบาลหยุดกระบวนการตามหาหน้ากากที่หายไปเพียงแค่ย้ายอธิบดีออกไปเท่านั้น เพราะวันนี้ประชาชนเหมือนถูกลอยแพ ต้องซื้อหน้ากากราคาแพง จึงขอเสนอแนะเรื่องนี้ 5 ประเด็น คือ 1. ขอให้เปิดเผยเอกสารการส่งออกหน้ากากอนามัยทั้งหมดต่อองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบ 2. หน้ากากที่อ้างว่าที่ส่งออกไปมีแต่แบบที่คนไทยไม่ได้ใช้ ขอถามว่า หน้ากากที่ต่างชาติใช้กับหน้ากากที่คนไทยใช้ต่างกันอย่างไร ทำไมจึงใช้ร่วมกันไม่ได้ 3. เหตุใดรัฐบาลไม่ขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ผลิตใช้ในประเทศก่อน 4. ข้ออ้างที่ว่าหน้ากากที่ส่งออกนอกนั้นเป็นหน้ากากที่คนไทยไม่ใช่เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น และ 5. ให้เปิดเผยกระบวนการตรวจสอบการกักตุนหน้ากากอนามัย และดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างตรงไปตรงมา อย่าปล่อยให้ภาระการตรวจสอบเป็นของประชาชน และขอให้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้