24 มิถุนายน 2563 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 88 ปีประชาธิปไตยไทย ยังคงวนเวียนอยู่กับการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ เลือกตั้ง ได้รัฐบาล ก่อนที่จะวนเวียนกลับสู่วงจร รัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ การเลือกตั้ง และกลับคืนสู่วงจรรัฐประหาร เป็นวงจรที่ไม่รู้จักจบสิ้น 88 ปีประชาธิปไตยไทย จึงถูกเผด็จการทหารปกครองมากกว่ารัฐบาลประชาธิปไตย

ประเทศไทยเคยถูกจับตามองว่า เป็นประเทศที่สามารถพัฒนาเป็นประเทศต้นแบบด้านประชาธิปไตยในอาเซียน บางช่วงมีความหวังว่าจะมีประชาธิปไตยเต็มใบ เป็นสากล แต่หลังรัฐประหารแทบทุกครั้งก็มีความพยายามแช่แข็งประเทศ สืบทอดอำนาจ จนหลายประเทศในอาเซียนแซงหน้า พร้อมๆ กับความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าไปลงทุนในประเทศดาวรุ่งประชาธิปไตยในอาเซียนแทนไทย เพราะเชื่อมั่นในกติกาที่เป็นมาตรฐานสากล ลงทุนแล้วไม่ถูกยึด ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพ เปิดโอกาสให้แข่งขันอย่างเสรีเป็นธรรม 

“สิ่งบ่งชี้ว่าประชาธิปไตยเบ่งบานงอกงาม ไม่ได้วัดที่จำนวนรัฐธรรมนูญว่าประเทศใดมีมากกว่า ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมากถึง 20 ฉบับ มากเป็นอันดับ 3 ของโลก เขียนแล้วฉีก ฉีกแล้วเขียน ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ตอบโจทย์ในการพัฒนาประเทศ สาเหตุสำคัญที่ประชาธิปไตยไทยล้มลุกคลุกคลาน เพราะไม่เชื่อมั่นในประชาชน ไม่เคารพเจตนารมณ์ของประชาชน ไม่เชื่อมั่นว่าประชาชนสามารถเลือกตัวแทนของตัวเองได้ ซึ่ง 88 ปี ประชาธิปไตยไทย มีคำถามมาตลอดว่า ประชาชนพร้อมหรือยัง ทั้งที่ประชาชนพร้อม มีแต่เผด็จการ รัฐราชการรวมศูนย์ ระบบที่ล้าหลัง กลุ่มได้ประโยชน์จากความเหลื่อมล้ำ ความพยายามสืบทอดอำนาจ ที่ไม่เชื่อมั่นในประชาชน”