ส.ส.พะเยา เพื่อไทย เรียกร้องกระทรวงพาณิชย์เร่งดูแลราคารับซื้อข้าวให้เพียงพอต่อต้นทุนการผลิตโดยด่วน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันชาวนาได้รับความเดือดร้อนจากราคารับซื้อข้าวเปลือกตกต่ำเป็นอย่างมาก โดยราคารับซื้อข้าวหอมมะลิ กข.15 อยู่ที่กิโลกรัมละ 8.50-9.30 บาท ข้าวเหนียวกิโลกรัมละ 7-8 บาท เมื่อบวกกับมาตรการประกันรายได้ของรัฐบาลที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มราคารับซื้อข้าวเปลือกได้กิโลกรัมละ 3 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นราคารับซื้อที่ยังต่ำและไม่เพียงพอกับต้นทุนการผลิต โดยราคารับซื้อข้าวหอมมะลิที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 15-16 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แทบจะไม่ได้กำไร แต่เพียงพอต่อต้นทุนการผลิต ขณะที่ราคาขายปลีกข้าวสารกิโลกรัมละเกือบ 50 บาท สวนทางกับต้นทุนที่รับซื้อข้าวจากชาวนา

นอกจากนี้เมื่อรัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือค่าเกี่ยวข้าว รถเกี่ยวข้าวกลับขึ้นราคาจ้างเกี่ยวเป็นไร่ละ 600 บาท จากเดิมอยู่ที่ไร่ละ 400-500 บาท เป็นการซ้ำเติมชาวนาเป็นอย่างมาก จึงขอให้รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ เข้ามาดูแลส่วนต่างราคารับซื้อและราคาขายปลีกข้าวโดยด่วน เพราะขณะนี้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งราคารับซื้อผลผลิตตกต่ำ อีกทั้งยังมีภาระค่าใช้จ่ายจากกรณีที่บุตรหลานถูกเลิกจ้างจากโรงงานปิดตัวลง และกลับภูมิลำเนา รายจ่ายของครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงพอกับรายได้ที่ลดลง ดังนั้นชาวนาควรขายข้าวได้ราคาสูงกว่านี้ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพและจ่ายดอกเบี้ย ธกส. ส่วนผู้บริโภคควรซื้อข้าวสารในราคาถูกลงกว่านี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและคนตกงาน

“ตอนนี้ชาวนาเกี่ยวข้าวไป ร้องไห้ไป โรงสีรับซื้อราคาถูก เหตุใดจึงขายแพง มีกลไก มีนัยยะอะไรบ้าง เหตุใดรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับชาวนาเลย” นายวิสุทธิ์ กล่าว