“หมอทศพร” เรียกร้องรัฐบาลอย่าใช้ความรุนแรงสลายชุมนุม ชี้ การใช้สารเคมีเป็นการประทุษร้ายต่อชีวิตประชาชน

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งมีการฉีดน้ำผสมสารเคมีและแก๊สน้ำตา ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่ถูกยิงจากกระสุนปืน ซึ่งรายที่สาหัสที่สุดคือถูกยิงที่ขาจนกระดูกหักต้องผ่าตัดเอากระสุนออก และดามเหล็กไว้ , กลุ่มที่ได้รับผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจจากสารเคมีและแก๊สน้ำตา มีอาการไอ แน่นหน้าออก หายใจไม่ออก เหนื่อยหอบ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีและแก๊สน้ำตา มีอาการแพ้สารเคมีอย่างรุนแรง ผิวหนังผุผอง บวมแดง เป็นแผลไหม้ตามร่างกาย บางรายบาดแผลกินลึกไปถึงเซลล์ ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน ซึ่งสารเคมีพวกนี้เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก ถือเป็นการประทุษร้ายต่อชีวิตประชาชน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่อย่าทำแบบนี้กับประชาชนที่มาชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ

“พล.อ.ประยุทธ์ คือต้อตอของปัญหา ประชาชนออกมาเรียกร้องเท่าไหร่ ท่านไม่รับฟัง และไม่ยอมลาออก จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ให้ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่ ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง และขอให้ ส.ว. งดออกเสียงในการเลือกนายกฯ เพื่อแก้ไขปัญหาไม่ให้มีประชาชนต้องบาดเจ็บอีก” นพ.ทศพร กล่าว