“เพื่อไทย” แนะรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ-ปรับผลิตผลให้ตรงความต้องการตลาดโลก

ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันสถานการณ์ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะข้าว ได้สร้างความทุกข์ยากแก่เกษตรกรอย่างแสนสาหัส โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหาร เกิดการกักตุนอาหารโดยเฉพาะข้าว นำไปสู่การเคลื่อนย้ายของความต้องการข้าวจากช่วงปลายปีมาอยู่ช่วงกลางปี อุปสงค์เดิมช่วงปลายปีจึงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่อุปทานส่วนเกินเข้าสู่ตลาดในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดจำนวนมาก จึงเกิดแรงกดดันด้านราคาและปริมาณการส่งออกสุทธิ

ทั้งนี้ ข้าวไทยยังมีราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ปัจจัยหลักเกิดจากผลิตภาพหรือผลผลิตต่อไร่ที่ต่ำของข้าวไทย ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า อีกทั้งข้าวไทยยังไม่ตรงกับความต้องการตลาดโลก พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันไปบริโภคข้าวที่มีโภชนาการและคุณภาพมากขึ้น แต่ราคาที่ไม่สูงนัก อีกทั้งไทยยังละเลยการลงทุนเพื่อการพัฒนาพันธุ์ข้าว ข้าวไทยจึงเสียความสามารถในการแข่งขัน ทำให้อุปทานข้าวไทย ไม่สอดคล้องและไม่ตรงกับความต้องการของตลาดโลก ส่งผลให้ราคาข้าวไทยตกต่ำ และมีส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลงเรื่อยๆ

ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า ในระยะสั้นการสนับสนุนด้านราคาฝั่งอุปทานผ่านมาตรการต่างๆยังมีความจำเป็น และต้องกระทำโดยรวดเร็วในราคาที่เป็นธรรม เพื่อลดความเดือดร้อนของเกษตรกร แต่ทั้งนี้เห็นว่ามาตรการประกันราคาข้าว ไม่ประสบความสำเร็จในการรักษาเสถียรภาพด้านราคาของสินค้าการเกษตร เพราะไม่ได้ช่วยเรื่องการพัฒนาผลิตภาพและโครงสร้างการผลิตแต่อย่างใด ทั้งนี้ในระยะกลาง-ยาวนั้น ราคาข้าวเหมือนราคาสินค้าทุกชนิดที่ถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน เพราะฉะนั้นต้องแก้ไขที่ต้นตออุปสงค์และอุปทาน โดยการกระตุ้นการบริโภคข้าวไทยภายในประเทศ สามารถทำได้ผ่านมาตรการสร้างแรงจูงใจผ่านมาตรการทางภาษี และมาตรการทางการคลังฝั่งอุปสงค์ โดยสนับสนุนด้านราคาฝั่งผู้บริโภค สร้างอุปสงค์ส่วนเพิ่มขึ้นมารองรับอุปทานส่วนเกินที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดรายจ่ายการบริโภคของประชาชน และยังไม่เป็นการสร้างอุปทานเทียมที่เกิดจากการสนับสนุนด้านราคาฝั่งอุปทานอีกด้วย

“รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาพันธุ์ข้าว และปรับโครงสร้างการผลิตให้ตรงกับความต้องการตลาดโลก รวมถึงการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ เกษตรแม่นยำ ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการบริหารจัดการน้ำเพื่อสร้างเสถียรภาพของปัจจัยการผลิตข้าว และปรับนโยบายการเงินที่มุ่งชิงความได้เปรียบด้านราคาผ่านอัตราแลกเปลี่ยน” ดร.เผ่าภูมิ กล่าว