นายแพทย์โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถาการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธ์โอมิครอน เริ่มรุนแรงมากขึ้น จนถึงเวลานี้ระบาดแล้วกว่า 90 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย หลายประเทศเริ่มตระหนักถึงภัยร้ายแรง เริ่มกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสร้าย จนส่งผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศ

แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐ
มนตรี ยังคงเพิกเฉยต่อสถานการณ์ ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่ไม่สนใจ พลเอกประยุทธ์ และรัฐบาลยังคงมองว่าไวรัสสายพันธ์โอมิครอน กระจอก ขอยืนยันว่าไวรัสสายพันธ์นี้ไม่กระจอก เพราะตัวของไวรัสยังไม่มีวัคซีนชนิดใด สามารถยับยั้งการระบาดได้ หรือป้องกันได้ แต่รัฐบาลยังคงไม่รู้ถึงอันตรายที่กำลังเกิดขึ้น

นายแพทย์โอชิษฐ์ กล่าวด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ ประกาศนโยบายเปิดประเทศ เพื่อหวังเงินตราจากนักท่องเที่ยว แต่สุดท้ายกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสีย ควรกลับไปศึกษาใหม่ว่า นโยบายการเปิดประเทศแบบ ปลอดภัยควรทำเช่นไร การดูแลนักท่องเที่ยวควรคุมอย่างไร ไม่ควรปล่อย อิสระเต็มที่ เพราะนักท่องเที่ยวอาจมาพร้อม ไวรัสสายพันธ์ใหม่ที่รุนแรงกว่า นโยบายเปิดประเทศเป็นนโยบาย ที่ดีแต่ต้องตั้งอยู่บนความรับผิดชอบชีวิตประชาชน อย่าหน้ามืดอยากได้เงินจนลืมปกป้องชีวิตประชาชน

“บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมาก แต่รัฐบาลไม่มีการสนับสนุนงบประมาณ อย่างเต็มที่ บุคลากรทางการแพทย์ ทุกคนสู้มาตลอด 2 ปี สู้บนความไม่พร้อม ปัจจุบันอุปกรณ์ป้องกันทางเดินหายใจแบบจ่าย อากาศบริสุทธิ์ หรือพีเอพีอาร์ หรือ PAPR ที่เป็นอาวุธสำคัญในการ ปกป้องชีวิตของบุคลากรทางการแพย์มีจำกัด เพราะรัฐไม่สนับสนุนงบประมาณ ส่งผลให้การทำงานของแพทย์อยู่บนความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ตลอดเวลา ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ ควรให้ความสำคัญ กับบุคลากรทางการแพทย์มากกว่าการซื้ออาวุธ หยุดคิดซื้ออาวุธ ประหารชีวิตคน มาสนับสนุนอุปกรณ์ในการปกป้องชีวิตคนให้มากขึ้น จะช่วยคนไทยได้มากกว่า”นายแพทย์โอชิษฐ์ กล่าว