นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การมหาชนและกองทุน เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการได้ติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณของกองทุนต่างๆ ทั่วประเทศที่มีวงเงินเป็นแสนล้านบาท ว่ากมธ. สอบพบว่าหลายกองทุน ใช้เงินภาษีประชาชน ไปในทางทุจริตข้าราชการระดับสูงวางแผนอย่างแยบยล เอื้อประโยชน์พวกพ้อง แต่หลังจากการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ ม.152 ที่ผ่านมาของตนเป็นการเสนอแนะให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีขันน๊อตกับส่วนราชการที่ส่อมีพฤติกรรมไปในทางมิชอบส่อทุจริต หาเงินทอน

ซึ่งตนได้ให้ข้อแนะนำไปถึง 5 กระทรวงนั่นก็คือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงพลังงานกรณีท่อก๊าซระเบิด/น้ำมันรั่วระยอง , กระทรวงคมนาคมกรณีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมถึงการตรวจสอบทุจริตของกรมต่างๆ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนใหญ่รับไปแก้ไขปรับปรุงแบบสุภาพบุรุษ

ซึ่งตนยืนยันในที่ประชุมสภาไปแล้วว่าเรื่องดังกล่าวนำมาให้นายกฯ ได้ขันน๊อดและตรวจสอบและแก้ไขหรือไม่ก็ป้องปรามข้าราชการเหล่านี้ ว่าอย่าหาทำ มันเป็นเงินของประชาชน

แต่เมื่อวานนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลที่ดูแลเงินงบประมาณกองทุนน้ำบาดาลที่มาจากภาษีประชาชนเป็นพันๆ ล้านบาท กลับให้รองอธิบดีออกมาเป็นหนังหน้าไฟ แถถึงข้อมูลกล่าวหาว่าที่ตนอภิปราย เรื่องใช้เงินซื้อขวดน้ำแจกหลาย ล้านขวด โดยเฉพาะไปเทกระจาดที่เขต 2 สุพรรณบุรี ถึง 1.4 ล้านขวด แต่อีสานแล้งหนักได้ 1 แสนขวด นั้นว่าเป็นข้อมูลเก่าที่ยกเลิกไปนานแล้ว ซึ่งตนเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องของรองฯ และรองไม่รู้จริงก็อย่าออกมารับหน้าแทนคนอื่นเพราะแทนที่กระทรวงจะนำไปแก้ไขปรับปรุง กลับใช้ลูกน้องออกมารับหน้าไฟแถลงข่าวแบบผิดๆ ที่สำคัญท่านรองฯ อาจได้คดีเพิ่ม ที่กล่าวหาว่าตนเอาเรื่องเก่ามาอภิปราย ตนอยากบอก
รองฯว่า กรมก็เพิ่งประกาศการจัดซื้อโครงการนี้เมื่อก่อนอภิปรายไม่ถึง 2 วันไม่ใช่หรือ 2 วันก่อนการอภิปรายถือว่านานแล้วใช่หรือไม่ หากเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า อีก 2 โครงการปี 63-64 อยู่ในฝ่ายสืบสวนของกรรมาธิการในรูปแบบเดียวกัน คงเป็นเรื่องใหม่ที่สังคมอยากรู้ว่าใครได้เงินทอนกันไปเท่าไหร่
นายจิรายุกล่าวว่า ในวันพุธที่จะถึงนี้ตนจะลากไส้การบริหารเงินงบประมาณแผ่นดินของกระทรวงและคนกลุ่มนี้โดยหารือในที่ประชุมสภา และจะเปิดการแถลงข่าวที่รัฐสภาให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของข้าราชการฉ้อฉล และข้อมูลที่ออกมาตอบโต้ ในการอภิปราย 152 ที่ผ่านมาโดยจะหักล้างทุกประเด็น และประชาชนจะได้เห็นว่าใครกันแน่ที่สะตอ และกังฉิน และจะเป็นซีรี่ย์ยาวกว่า 12 ตอนและตนขอให้ผู้นำองค์กรอย่าใช้ลูกน้องเป็นหนังหน้าไฟควรออกมาชี้แจงด้วยข้อมูลความจริงต่อประชาชนด้วยตนเอง
“นายจิรายุกล่าวต่อไปว่าตนได้ร่างหนังสือ ถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บรรยายถึงความไม่ชอบมาพากลของข้าราชการ บางคนที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตหลายคนชอบเดินเข้าไปหาบิ๊กป้อม ไปยืนถ่ายรูป ทำโครงการให้ไปเปิดงานแล้วเที่ยวไปบอกคนอื่นว่าเป็นเด็กนาย ซึ่งตนเชื่อว่าบิ๊กป้อม ไม่รู้และตนได้พูดคุยกับพี่ที่เคารพนับถือที่เป็นคนใกล้ชิดบิ๊กป้อม แล้วได้ขอให้ตนสรุปส่งให้ซึ่งตนเชื่อว่าบิ๊กป้อม เห็นข้อมูลเหล่านี้จะได้จัดการขจัดเหลือบไรรอบตัวที่นำชื่อไปอ้างอยู่เสมอ”นายจิรายุกล่าว//