“เพื่อไทย” จัดแคมป์คนรุ่นใหม่ระดมความคิดเห็น พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
(16 พ.ย. 62) พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรมร่วมกับเยาวชนและนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ในโครงการ “Pheu Thai Top Secret ไขความลับพรรคเพื่อไทย” ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไขความลับของพรรคเพื่อไทยในฐานะสถาบันทางการเมืองของประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย. 62 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์จากสถาบันพรรคการเมือง และร่วมรับฟังพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่กับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย อาทิเช่น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ ประธานกลุ่มเพื่อไทยพลัส , นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองประธานกลุ่มเพื่อไทยพลัส , นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการเพื่อไทยพลัส , นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายสงวน พงษ์มณี ส.ส. ลำพูน , น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส. เชียงใหม่ และ น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส. หนองคาย
การจัดโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมความคิดเห็นและออกแบบนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน
โดยภายในงานมีการโต้วาทีร่วมกันระหว่างเยาวชนและนักการเมือง
การเสวนาในหัวข้อต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง
พร้อมการลงพื้นที่เพื่อเรียนรู้ร่วมกับชุมชนจริง
อีกทั้งยังมีการแนะแนวการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ทางด้านสังคมศาสตร์
รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
มีการเสวนาหัวข้อ “เศรษฐกิจกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ” โดย น.ส.จิราพร
สินธุไพร ส.ส. ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพลนชชา
จักรเพ็ชร คณะกรรมการนโยบายคนรุ่นใหม่
ซึ่งมีน้องๆเยาวชนให้ความสนใจเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
โดย
น.ส.จิราพร กล่าวถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษา
ที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างโรงเรียนในเมืองและชนบท
ทำให้งบประมาณกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. ไม่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ
ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศมีถึง 85%
แต่กลับได้รับการจัดสรรงบประมาณเพียง 30% เท่านั้น
ในขณะที่ นายพลนชชา กล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยเกิดจากความไม่เป็นประชาธิปไตย เกิดจากการมองคนไม่เท่าเทียมกัน
“ทางออกของความเหลื่อมล้ำคือการปฏิรูประบบภาษี
การกระจายสวัสดิการกับการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม
และการบริหารจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของประชาชน” นายพลนชชา
กล่าว