“อนุสรณ์” ชี้ รัฐบาลต้องมีคำตอบทำไมอันดับต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันของไทยจึงตกต่ำลง
(24 ม.ค. 63) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี องค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ( Transparency International) ได้ประกาศค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตปี 2019 ทั้งหมด 180 ประเทศ โดยประเทศไทย ตกลงไปอยู่อันดับ 101 จนถูกประเทศเพื่อนบ้านแซง ว่า อันดับที่ออกมาสอดรับกับผลงานการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อยู่มา 5-6 ปี ไม่สามารถไปโยนบาปให้ใคร หรือโทษรัฐบาลไหนได้แล้ว รัฐบาลต้องมีคำตอบว่า เหตุใดอันดับในเรื่องความโปร่งใส ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของประเทศไทยจึงตกต่ำลง เหตุผลหนึ่งที่มักใช้เป็นข้ออ้างในการทำไอโอเพื่อสร้างความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร คือเข้ามาปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ยิ่งอยู่นาน นอกจากอันดับจะไม่ดีขึ้นแล้วยังตกต่ำลงอย่างน่าใจหายจนถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงเกือบหมดภูมิภาค องค์กรตรวจสอบที่มี ถูกตั้งคำถามว่า ทำหน้าที่เป็นตราประทับ สารฟอกขาว หรือเป็นองค์กรตรวจสอบที่เข้มข้นตรงไปตรงมา ผลอันดับและค่าคะแนนที่ออกมา เป็นวิทยาศาสตร์ ตัวเลขไม่เคยโกหกใคร คนดีชอบแก้ไข รัฐบาลไม่มีทางเลือก นอกจากยอมรับกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นและลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่มี ไม่สามารถคาดหวังได้ว่า จะสามารถต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันได้หรือไม่ เพราะ 5-6 ปี ที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า รัฐบาลนี้ล้มเหลวในเรื่องความโปร่งใสและการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน จนถูกตั้งคำถามว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันเชิงอำนาจ คอร์รัปชันกระบวนการยุติธรรม กลุ่มผู้สนับสนุนและเครือข่ายในระบอบประยุทธ์ ยังเชื่ออยู่จริงหรือว่า รัฐบาลนี้ไม่มีเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านมีหลักฐาน ใบเสร็จที่จะแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลนี้มีปัญหาเรื่องความโปร่งใสและการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน” นายอนุสรณ์ กล่าว