5 มีนาคม 2563 นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์หลายรายการประสบปัญหาไม่เพียงพอต่อความต้องการของทั้งแพทย์และประชาชน โดยเฉพาะแอลกอฮอล์ ที่จำเป็นในการป้องกันการติดเชื้อที่เริ่มขาดตลาด ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งแก้ไขประกาศกระทรวงการคลัง ปี 2550 เรื่องการบริหารงานสุรากลั่นชนิดสุราสามทับ (เอทานอล) สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง เพื่อให้โรงงานเอทานอล ผลิตแอลกอฮอล์กลั่น 95% โดยยกเว้นภาษีสรรพสามิต แล้วนำไปแปรรูปเป็นแอลกอฮอล์ 70% ใช้เป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆสำหรับฆ่าเชื้อโรค ทำความสะอาด ล้างมือ ซึ่งมีความต้องการสูงมากทั่วโลกเพื่อใช้ป้องกันและฆ่าเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ และแนะนำให้ใส่สารแปลงสภาพ (denature) ที่เป็น marker และให้มีสีพิเศษแตกต่างจากแอลกอฮอล์ทั่วไป ก่อนนำออกจากโรงงานผลิตเอทานอล เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ และป้องกันการนำไปทำสุรา

นพ.สุรวิทย์  กล่าวว่า รัฐบาลควรอนุมัติการผลิตและจำหน่ายเอทานอลเพื่อการสาธารณสุข โดยยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับเอทานอลที่จะนำมาใช้เพื่อการสาธารณสุข เป็นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนไม่เช่นนั้นผู้ผลิตสารฆ่าเชื้อจะหันไปใช้เมทานอล ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ และที่สำคัญก็เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในภาวะที่แอลกอฮอล์ขาดตลาดและมีราคาสูงจนเกินไป

“ปัจจุบันเอทานอลถ้านำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค ความเข้มข้น 70% เอทานอล 1 ลิตร จะสามารถผลิตเป็นแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70% ได้ 1.4 ลิตร จะมีต้นทุนเพียงลิตรละ 16.5 บาท แต่เมื่อนำมาจำหน่ายเป็นแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ หรือแปรรูปเป็นเจลฆ่าเชื้อจะได้ราคา ไม่น้อยกว่าลิตรละ 300- 500 บาท เป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนแอลกอฮอล์ 70% และเจลที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรค หรือใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปลูกอ้อยด้วย” นพ.สุรวิทย์ กล่าว