รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แนะ รัฐบาล ควรเร่งรัดมาตรการรับมือโรคระบาดให้พร้อม ก่อนแก้ปัญหาด้วยการแจกเงิน
7 มีนาคม 2563 นางสาวจิราพร สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ครม.เศรษฐกิจ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นชอบมาตรการแจกเงิน เพื่อรองรับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ว่าเป็นการแจกเงินในลักษณะ “Helicopter Money” ซึ่งหลายประเทศนำมาใช้ในกรณีที่เศรษฐกิจดี สามารถจัดเก็บภาษีได้เกินกว่าประมาณการ จึงมีการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ แต่กรณีประเทศไทยนั้นที่ผ่านมานอกจากเศรษฐกิจแย่แล้วยังเก็บภาษีได้ต่ำกว่าประมาณการ ประชาชนก็ถูกซ้ำเติมจากวิกฤติโควิด-19 การแจกเงินในภาวะเช่นนี้นอกจากจะไม่ทำให้ไทยพ้นจากวิกฤติไวรัสที่กำลังลุกลามบานปลาย ยังเร่งให้ประเทศเดินเข้าสู่วิกฤติทางเศรษฐกิจเร็วขึ้นด้วย
นโยบายการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ยุค คสช. จนถึงปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ซ้ำร้ายยังสร้างความเหลื่อมล้ำมากขึ้น แม้ในปี 2562 จะมีการแจกเงินมหาศาล แต่ GDP ของไทยในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งเป็นห้วงที่ยังไม่เกิดวิกฤติโควิด-19 แทนที่จะขยายตัวได้ดี แต่กลับขยายตัวต่ำสุดในรอบ 5 ปี ล่าสุดธนาคารโลกยังประกาศว่า ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีคนจนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นว่าการแจกเงินไม่ใช่วิธีที่จะกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีคุณภาพ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว หากรัฐบาลยังมักง่ายแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยการแจกเงินแบบนี้ ก็ต้องแจกต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับมาตรการรับมือเพื่อหยุดการระบาดของไวรัสเป็นอันดับแรก ที่ผ่านมารัฐบาลห้ามคนไทยเดินทางไปยังประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส แต่กลับเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกหนแห่ง ซึ่งเป็นมาตรการที่ย้อนแย้งกันเอง อีกทั้งยังไม่สามารถรับมือกับกรณีพี่น้องแรงงานจากเกาหลีใต้กว่า 5,000 ราย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความสุ่มเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ได้เร็วขึ้น เงินกว่าแสนล้านที่รัฐบาลอ้างว่าจะแจกเพื่อลดผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ควรจะนำมาซื้ออุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสเบื้องต้น เช่น หน้ากาก เจลล้างมือ แจกจ่ายให้กับประชาชนผ่านกลไกที่มีอยู่แล้วอย่าง สาธารณสุขจังหวัดหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล รวมถึงเน้นการสื่อสารกับประชาชนอย่างทั่วถึง โปร่งใส และตรงไปตรงมา น่าจะเป็นวิธีการรับมือที่ตรงจุดมากกว่า และหากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ รัฐบาลต้องอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลิต ไม่ใช่กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนได้เลย
“การแก้ปัญหาตั้งแต่เกิดวิกฤติต่างๆ ในอดีต รวมถึงการรับมือกับวิกฤติล่าสุดอย่างไวรัสโควิด-19 เป็นการตอกย้ำให้ประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤติไหนได้เลยแม้แต่วิกฤติเดียว ดังนั้นวิธีการแก้วิกฤติที่ดีที่สุดในตอนนี้ คือ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ควรพิจารณาลาออกจากตำแหน่ง” นางสาวจิราพร กล่าว