“นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์” ห่วงการใช้งบกลางที่ไม่มีรายละเอียด เตือน อย่านำเงินรัฐไปจ่ายค่าปรับคดีเหมืองทองเด็ดขาด

16 กันยายน 2563 นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณามาตรา 6 งบกลาง ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ที่คณะกรรมการวิสามัญฯพิจารณาเสร็จแล้ว ว่า ขอตัดลดงบกลาง 20% จากวงเงินทั้งหมด 614,616 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งงบกลางไว้สูงมาก เมื่อรวมกับงบอื่นๆ ที่ได้มาจาก พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก. ต่างๆ ทำให้รัฐบาลมีงบที่สูงมาก และเป็นลักษณะการใช้งบแบบรวมศูนย์อำนาจ เพราะอำนาจในการจ่ายขึ้นอยู่กับสำนักงบประมาณและนายกรัฐมนตรี โดยไม่ได้ผ่านการศึกษาวิเคราะห์งบประมาณหรือผลสัมฤทธิ์เลยว่าจะเป็นอย่างไร แม้แต่รายงานที่เคยได้ฟังจากคณะกรรมาธิการเรื่องการขอรายละเอียดต่างๆ ยังเป็นเรื่องที่ยาก นั่นคือสิ่งที่เป็นปัญหา และเป็นห่วงว่างบประมาณจำนวนมากเช่นนี้ จะได้รับการบริหารให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้มากน้อยเพียงใด และถ้าปรับลดงบกลางได้ เราจะสามารถนำไปใช้จ่ายได้อีกหลายโครงการ เช่น การเพิ่มค่าหัวอาหารโรงเรียนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ซึ่งคงจะลำบากสำหรับอาหารมื้อละ 20 บาท ที่จะทำให้เด็กและเยาวชนของเรามีคุณภาพได้

ทั้งนี้ มีพี่น้องประชาชนได้ฝากมาว่า งบกลางที่ตั้งไว้สูงนั้น ขออย่านำไปใช้จ่ายเป็นค่าปรับกรณีเหมืองทองอัคราเด็ดขาด เพราะคดีเหมืองทองอัคราเป็นไปตามคำสั่ง คสช. ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้า คสช. ในขณะนั้น ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า หัวหน้า คสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ดังนั้น เมื่อไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ถ้าไปทำเหตุผิดกฎหมายแล้วถูกปรับ จะนำเงินของรัฐไปใช้จ่าย พี่น้องประชาชนกำลังมองดูอยู่