สัมภาษณ์พิเศษ : คณิน บุญสุวรรณ (ตอนที่ 1)
เมื่อกล่าวถึง สภาวะการดำรงอยู่ของความขัดแย้งในสังคมไทยทุกวันนี้ หลายฝ่ายตั้งสมมติฐานว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มที่เอาประชาธิปไตยกับกลุ่มต่อต้านประชาธิปไตย หากกล่าวเช่นนี้ ก็จะเป็นการสรุปที่รวบรัดจนเกินไปที่จะอธิบายความขัดแย้งครั้งนี้ได้และเป็นการดูถูกคนอีกกลุ่มไปโดยสิ้นเชิง ในทางกลับกัน ข้อสรุปดังกล่าว กลับเริ่มประจักษ์ชัดว่าสิ่งที่กล่าวมาเมื่อครู่ กำลังแสดงผลลัพธ์ในตัวของมันเอง
เช่นในกรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตลอดการบริหารประเทศของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ถูกฝ่ายต่อต้านใช้กลวิธีรูปแบบต่างๆ สกัดกั้นไม่ให้สามารถบริหารประเทศได้อย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายกำจัดรัฐบาลพรรคเพื่อไทยออกจากวงจรการเมืองไทย เพื่อกลุ่มต่อต้านจะได้บริหารประเทศที่พวกเขาควบคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จอย่างที่พวกเขาเคยทำมาในอดีต ที่แม้จะไม่เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยก็ตาม
วันนี้ เราจะมาคุยกับผู้รู้เกี่ยวกับการเมืองไทย ท่านคณิน บุญสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ว่าสังคมไทยจะออกจากห้วงความขัดแย้งวันนี้ได้อย่างไร?
00 ความขัดแย้งปัจจุบันดำเนินมาถึงขั้นที่มีการกล่าวหาจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลว่าผู้สนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดแบ่งแยกดินแดน มองเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ?
“การประโคมข่าวของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลในทำนองใส่ร้ายรัฐบาลมีมาโดยตลอดกว่า 2 ปี ที่บริหารประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะโค่นล้มรัฐบาลด้วยวิธีต่างๆ เพราะฉะนั้น ประเด็นในการแบ่งแยกดินแดนก็เช่นเดียวกัน ที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นในการกล่าวโจมตีรัฐบาล เพื่อนำไปสู่การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ อันนำไปสู่การใช้เป็นเหตุผลในการยุบพรรคเพื่อไทยในที่สุด”
00 แล้วพรรคเพื่อไทยมองการกล่าวหาจากฝ่ายต่อต้านว่ามีแนวคิดแบ่งแยกดินแดนอย่างไรบ้าง ?
“พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวความคิดในการแบ่งแยกดินแดนอยู่แล้ว และหากจะพูดถึงการแบ่งแยกดินแดนแล้ว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่รู้จะไปแบ่งตรงไหน เพราะว่าทุกพื้นที่มันเป็นไทย
หมด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร คนทั้ง 77 จังหวัด ก็มารวมกันอยู่ตรงนี้หมด
จะไปแยกกันตรงไหน มันไม่มี มันเป็นเรื่องที่ไม่มีมูล
แต่สร้างขึ้นมาเพื่อหวังผลทางการเมือง ซึ่งเข้าใจว่าประเด็นนี้ ก็คงจะล้มไปอีกเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา ที่กลุ่มล้มรัฐบาลพยายามทำ แต่ก็ดูเหมือนพวกเขามุ่งมั่นมาก ในการที่จะอธิบายว่าทั้งพรรคเพื่อไทยและกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล เป็นพวกแบ่งแยกดินแดน ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
00 การที่กลุ่มล้มรัฐบาล พยายามนำเรื่องแบ่งแยกดินแดนมาขยายผล จะนำสังคมไปสู่ความขัดแย้งเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่?
“จริงๆ แล้ว ต้องย้ำว่าเรื่องการแบ่งแยกดินแดนมันไม่มีประเด็นเลยเพียงแค่หวังผลทางการเมือง แต่กลับเป็นกลุ่ม กปปส. และพรรคประชาธิปัตย์เสียเองที่ทำให้สังคมแตกแยก ผ่านการไม่เอาระบบระเบียบกติกาของสังคม อย่างการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการปิดคูหาเลือกตั้งในหลายพื้นที่ ทำให้กว่า 28 เขตเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินเลือกตั้งได้ พวกเขาต้องการควบคุมอำนาจทั้งประเทศ แต่ไม่สามารถผ่านวิธีการเลือกตั้งได้ ก็เลยหันไปใช้วิธีที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาล้มฝ่ายรัฐบาล ไม่เอากฏระเบียบที่สากลยอมรับ พูดง่ายๆ ว่าเอาการเลือกตั้งเป็นตัวประกัน คุมเอาไว้ กดเอาไว้ ไม่ให้เลือกตั้งให้ได้ สุดท้ายแล้วเมื่อสังคมไม่มีทางเลือก ความรุนแรงมักจะเกิดขึ้นเสมอ ซึ่งฝ่ายต่อต้านรัฐบาลคิดว่าตนเองได้เปรียบและเป็นทางเลือกที่กลุ่มตนจะรักษาอำนาจเอาไว้ได้ในอนาคต”
00 ความรุนแรงทางการเมืองในขณะนี้ การไม่เคารพกติกา การก่อม็อบยืดเยื้อ จะนำไปสู่สงครามกลางเมือง หรือไม่?
“สงครามกลางเมือง มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ กระบวนการในการให้ความยุติธรรมกับประชาชนโดยไม่สามารถทำหน้าที่ในการให้ความยุติธรรมได้ถ้วนหน้าทุกคน ประกอบกับกระบวนการประชาธิปไตยซึ่งจะทำให้ประชาชน มีสิทธิ มีเสียงเท่ากัน มันล้มเหลวหมด และกระบวนการในการโค่นล้มรัฐบาลประสบความสำเร็จ ในการนำสังคมไปสู่สภาวะที่ไม่เป็นประชาธิปไตยหรือที่เรียกว่า “แช่แข็งประเทศ” ถ้าพวกเค้าทำอย่างนั้นแล้วประสบความสำเร็จ ด้วยความร่วมมือขององค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งต่างๆ ก็สามารถคาดเดาได้ว่า สภาวะที่เรียกว่า สงครามกลางเมือง ก็อาจจะเกิดขึ้นก็ได้ ระหว่างฝ่ายที่ต้องการประชาธิปไตยกับฝ่ายที่ไม่ต้องการประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นต้องระวัง”