16 พ.ค.54 เปิดตัว ยิ่งลักษณ์ นำทัพเพื่อไทย
“เหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง ไม่ได้เข้ามาเล่นการเมือง แต่เสนอตัวรับใช้ประชาชน อยากเห็นประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งแล้วเดินหน้าไปด้วยกัน และอยากเห็นความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมสร้างความปรองดอง ไม่คิดแก้แค้น แต่คิดจะแก้ไข”
.
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
16 พฤษภาคม 2554
.
ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนระอุ ภายหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมของประชาชนในปี 2553 ที่ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองหยั่งลึกในความรู้สึกของประชาชนไม่มีทีท่าว่าจะได้รับการแก้ไข รัฐบาลอภิสิทธิ์ ประกาศยุบสภาในวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 เพื่อลดแรงเสียดทานจากประชาชน
.
7 กรกฎาคม 2554 คือวันเลือกตั้งที่ถูกกำหนดขึ้น ซึ่งขณะนั้นแน่ชัดแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้นำในฟากการเมือง ‘พรรคประชาธิปัตย์’
.
ส่วนพรรคเพื่อไทยหากย้อนไปตั้งแต่การรัฐประหารปี 2549 ถูกยุบพรรคถึงสองครั้ง คือ ‘พรรคไทยรักไทย’ และ ‘พรรคพลังประชาชน’ มีการเปลี่ยนผู้นำจากภัยทางการเมืองถึง 3 คน ทัั้ง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ , ‘สมัคร สุนทรเวช’ และ ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ ขณะนั้นทุกสายตาในสังคมจึงจับจ้องว่าใครคือคนที่จะเป็นผู้นำทัพพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง
.
#ณวันนั้น 16 พฤษภาคม 2554 ชื่อ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ก็ปรากฎขึ้นในแวดวงการเมือง เมื่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ชื่อนี้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 สู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
.
หลังการเปิดตัว เสียงวิพากษ์วิจารณ์และคำสบประมาทต่างๆ ปรากฎขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการวิเคราะห์ไปที่ประสบการณ์ทางการเมืองหากเปรียบกับนายอภิสิทธิ์ที่อยู่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน อีกทั้งระยะเวลาที่กระชั้นชิดเพียง 49 วันก่อนถึงกำหนดวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ทำให้หลายฝ่ายจับตาการเคลื่อนไหวของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย
.
ในวันเปิดตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้แถลงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทยว่า “รู้สึกว่าตำแหน่งนี้มีคุณค่าและมีเกียรติมาก โดยส่วนตัวมีความพร้อมและจริงใจที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ รวมทั้งมั่นใจว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะตอบโจทย์ประชาชน เนื่องจากพรรคมีทีมงานและที่ปรึกษาที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อดีต”
.
แต่แล้วทุกคำสบประมาทก็หายไป เพราะในที่สุดภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส. 265 จาก 500 ที่นั่ง นับเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ไทยที่พรรคการเมืองพรรคเดียวครองเสียงข้างมากในสภา และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการเป็น ‘นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย’
.
ข้อเท็จจริงอีกด้าน ชัยชนะของนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ใช่ความบังเอิญหรือเพราะโชคชะตา แต่เกิดจากการวางแผนและมีการเตรียมตัวเข้าสู่สนามการเมืองมากกว่า 2 ปีโดยอ้างอิงจากเอกสารจากวิกิลีกส์ที่เผยบันทึกลับของ เอริก จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยที่เขียนรายงานต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า หลังพบปะกับนาวสาวยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 นางสาวยิ่งลักษณ์เริ่มมีบทบาททางการเมืองอย่างเงียบๆ และน่าจับตามองอย่างยิ่ง แถมก่อนกลับขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์จับมือกับทูตจอห์นตามปกติ นายนพดล ปัทมะ ซึ่งเดินทางไปด้วยยังพูดติดตลกกับทูตจอห์นว่า “คุณเพิ่งจะจับมือกับนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย”
.
นอกจากนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ยังมีประสบการณ์ในการเป็นผู้บริหารองค์กรใหญ่ของตระกูลชินวัตร ตั้งแต่เป็นกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อนที่จะลาออกเพื่อลงสู่สนามการเมือง
.
การที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรขึ้นมานำทัพพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอคือน้องสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร แต่ด้วยภาพลักษณ์ ความสามารถ และการเตรียมตัว เธอจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด และสามารถพิสูจน์ได้จากการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนั้นอย่างท่วมท้น
อ้างอิง
https://thestandard.co/yingluck-political-games/
https://thestandard.co/onthisday03july2554/
https://www.thairath.co.th/content/170187
https://www.posttoday.com/politic/news/88978
https://www.posttoday.com/politic/news/89056